วันแรก | กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) – มัสกัต |
18.30 น. | คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู เคาน์เตอร์ สายการบินโอมานแอร์ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก |
20.40 น. | ออกเดินทางสู่มัสกัต โดยเที่ยวบินที่ WY816 |
23.35 น. | เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติมัสกัต รอเปลี่ยนเครื่อง |
วันที่สอง | แฟรงก์เฟิร์ต – ปราสาทไฮเดลเบิร์ก – ทิทิเซ่ |
02.00 น. | ออกเดินทางต่อสู่แฟรงค์เฟิร์ต โดยเที่ยวบินที่ WY115 |
07.05 น. | ถึงสนามบินแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt) ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและพาณิชย์ที่สำคัญของเยอรมนี รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการธนาคารการเงินและการค้าหุ้นที่สำคัญของประเทศ จากนั้นนำท่านชมปราสาทไฮเดลเบิร์ก (Eidelberg Castle) ที่สร้างขึ้นอยู่บนเชิงเขาเหนือแม่น้ำเน็กคาร์ ซึ่งสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองได้โดยรอบ โดยตัวปราสาทสร้างด้วยหินทรายสีแดงซึ่งมีอายุกว่า 900 ปี ชมประตูคืนเดียว (Elisabeth’s Gate) ที่สร้างขึ้นโดยคำสั่งของพระเจ้าเฟเดอริก ที่สร้างเพื่อเป็นของขวัญวันเกิดแด่ พระมเหสี อลิซาเบธ ซึ่งสร้างเสร็จภายในคืนเดียว จากนั้นชมถังไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกมีความจุถึง 220,000 ลิตร |
| |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน |
| จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองทิทิเซ่(Titisee) เมืองริมทะเลสาปที่ตั้งอยู่ในเขตป่าดำ (Black Forest) ให้ท่านได้อิสระชมความงามของบ้านเรือน นำท่านล่องเรือชมทัศนียภาพของป่าสนอยู่บนภูเขา ที่เรียกว่า แบล็กฟอเรสต์ สถานที่อันเป็นต้นกำเนิดนาฬิกากุ๊กกู ให้ท่านได้มีโอกาสชิมเค้กแบล็กฟอเรสอันขึ้นชื่อ ณ เมืองต้นตำรับตามอัธยาศัย และเพลิดเพลินกับการเลือกซื้อสินค้าที่ระลึก (กรณีที่ไม่สามารถล่องเรือได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์คืนเงินให้ท่านละ 5 EUR และเปลี่ยนโปรแกรมเป็นเดินเล่นริมทะเลสาบแทน) |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง |
ที่พัก | นำท่านเข้าสู่ที่พัก MERITIM TITISEE หรือเทียบเท่า **ในกรณีที่โรงแรมที่เมือง TITISEE ไม่ว่าง จะเปลี่ยนไปนอนเมืองข้างเคียงแทน** |
วันที่สาม | ทิทิเซ่ – น้ำตกไรน์ – เบิร์น – ลูเซิร์น |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
| จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองชาฟฟ์เฮาเซินเมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ทางเหนือของสวิตเซอร์แลนด์ติดกับพรมแดนเยอรมนี โดยสถาปัตยกรรมของบ้านเรือนในเมืองนั้นตกแต่งด้วยศิลปะแบบเรเนอซองซ์และศิลปกรรมแบบเฟรสโกรวมกับภาพวาดตามผนังของอาคารต่างๆที่บอกเรื่องราวของชาวเมืองอย่างสวยงาม นอกจากนั้นแล้วเมืองนี้ยังมีชื่อเสียงจากการที่เป็นที่ตั้งของน้ำตกไรน์ (Rhine Fall) ซึ่งเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป นำท่านชมน้ำตกไรน์ (RhineFall) น้ำตกที่ใหญ่สวยงามและตื่นตาตื่นใจซึ่งเกิดจากแม่น้ำไรน์ทั้งสายไหลผ่านหน้าผากว้าง 150 เมตร จึงเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปและได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดในยุโรปกลางด้วย อิสระให้ท่านได้ชื่นชมความงามของน้ำตกและถ่ายรูปตามอัธยาศัย หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่กรุงเบิร์น (Bern) ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ.2010 นำท่านชมบ่อหมีสีน้ำตาล (Bear Park) สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น นำท่าน ชมมาร์กาสเซ ย่านเมืองเก่า ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่า อายุ 200-300 ปี นำท่านลัดเลาะชม ถนนจุงเคอร์นกาสเซ ถนนที่มีระดับสูงสุดของเมืองนี้ ถนนกรัมกาสเซ ซึ่งเต็มไปด้วยร้านภาพวาดและร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ ชมนาฬิกาไซ้ท์ คล็อคเค่นทรัม อายุ 800 ปี ที่มี “โชว์” ให้ดูทุกๆชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง นำท่านแวะถ่ายรูปกับโบสถ์ Munster สิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1421 ประตูจะมีภาพที่บรรยายถึงการตัดสินครั้งสุดท้ายของพระเจ้า |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน |
| เดินทางต่อสู่เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา จากนั้นพาท่านชมสิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส ตลอดแนวสะพาน |
ค่ำ | อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย |
ที่พัก | นำท่านเข้าสู่ที่พัก IBIS STYLES LUZERN CITY หรือเทียบเท่า |
วันที่สี่ | ลูเซิร์น – ทิตลิส – มิลาน |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
นำท่านขึ้นกระเช้าลอยฟ้าทันสมัยระบบใหม่ล่าสุดหมุน 360 องศา รอบตัวเอง ชมทัศนียภาพอันตระการตาได้รอบทิศทางตามเส้นทางขึ้นสู่ยอดเขาทิตลิส (Titlis) เข้าชมถ้ำน้ำแข็ง (Ice Grotto)ที่ไม่เคยละลาย เชิญเพลิดเพลินสนุกสนานกับการเล่นหิมะบนลานสกี สุดแสนประทับใจเป็นอย่างยิ่ง ชมทิวทัศน์ของยอดเขาต่างๆ ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะอันขาวโพลนสร้างความงดงามให้กับขุนเขาเป็นอันมาก ให้เวลาท่านเดินข้าม" The TITLIS Cliff Walk " สะพานแขวนที่ตั้งอยู่สูงที่สุดของทวีปยุโรป ที่ความสูง 3,041 เมตรจากระดับน้ำทะเล สะพานมีความยาว 100 เมตร ท่านจะได้ชมทัศนียภาพที่สวยงามของเทือกเขาแอลป์ อันสวยงามแบบกว้างไกลสุดสายตา (สะพานแขวนอาจจะปิด ในกรณีถ้าสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย) |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง |
| จากนั้นเดินทางข้ามพรหมแดนสวิตเซอร์แลนด์ – อิตาลี สู่ตัวเมืองมิลาน (Milan) เมืองที่เรียกได้ว่า เป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของโลก นำท่านชมมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (Duomo di Milano) ที่สร้างด้วยศิลปะแบบนีโอโกธิค ที่ผสมผสานกัน เป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ชมแกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (Galleria Vittorio Emanuele II) ที่นับว่าเป็นชอปปิงมอลล์ที่สวยงาม หรูหราและเก่าแก่ที่สุดในเมืองมิลาน อนุสาวรีย์ ของกษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 ผู้ริเริ่มการรวมชาติหัวเมืองต่างๆในอิตาลี และอนุสาวรีย์ของศิลปินชื่อดังในยุคเรเนซองส์อีก 1 ท่าน คือ ลิโอนาร์โด ดาร์วินซี่ ที่อยู่ในบริเวณด้านหน้าของโรงละครสกาล่า |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน |
ที่พัก | นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOLIDAY INN MILAN NORD ZARA หรือเทียบเท่า |
วันที่ห้า | มิลาน – ฟลอเรนซ์ – ปิซ่า |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
| นำท่านเดินทางต่อสู่แคว้นทัสคานี (Tuscany) โดยเมืองหลวงของแคว้น คือ ฟลอเรนซ์ (Florence) ที่ได้รับขนานนามว่าเป็นเมืองศูนย์กลางแห่งศิลปะในยุคเรอเนสซองส์ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีโบราณสถานสำคัญ และมีทิวทัศน์ตามธรรมชาติที่สวยงาม จนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโก้เมื่อ ปี ค.ศ.1982 ทำให้ทัสคานีมีชื่อเสียงในฐานะดินแดนท่องเที่ยวยอดนิยมระดับโลก นักท่องเที่ยวทั่วโลก ชมความยิ่งใหญ่ และอลังการของมหาวิหารซานตา มาเรีย เดล ฟิโอเร (Santa Maria Dell Fiore) วิหารของเมืองฟลอเรนซ์ ที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของทวีปยุโรป ซึ่งโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ใช้หินอ่อนหลายสีตกแต่งผสมผสานกันได้อย่างงดงาม นำชมจัตุรัสเดลลาซิญญอเรีย (Piazza Della Signoria) ซึ่งรายล้อมไปด้วยรูปปั้น อาทิ เช่น รูปปั้นเทพเจ้าเนปจูน (Fountain of Neptune),วีรบุรุษเปอร์ซิอุสถือหัวเมดูซ่า (Perseus with the Head of Medusa), รูปปั้นเดวิด ผลงานที่มีชื่อเสียงของ ไมเคิล แองเจโล่ จากนั้นนำท่าน มาริมฝั่งแม่น้ำอาร์โน จะพบกับสะพานเวคคิโอ (Vecchio) สะพานเก่าแก่ที่มีมีร้านขายทอง และอัญมณีอยู่ทั้งสองข้าง |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง |
| นำท่านเดินทางสู่เมืองปิซ่า (Pisa) เมืองแห่งศิลปะที่สำคัญของอิตาลี เป็นเมืองเล็กๆอยู่ทางตะวันตกของ Florence ด้านตะวันตกของเมืองติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แม้ว่าจะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ Pisa ก็เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก นำท่านเข้าสู่บริเวณจัตุรัสกัมโป เดย์ มีราโกลี (Compo Dei Miracoli) ที่ประกอบด้วยกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ โดยเริ่มจากหอพิธีเจิมน้ำมนต์ (Baptistry of St. John) ที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี, มหาวิหารดูโอโม (Duomo) ที่งดงามและหอเอนแห่งเมืองปิซ่าอันเลื่อง ชมหอเอนปิซ่า (Leaning Tower of Pisa) สัญลักษณ์แห่งเมืองปิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1173 ใช้เวลาสร้างประมาณ 175 ปี แต่ระหว่างการก่อสร้างต้องหยุดชะงักลงไปเมื่อสร้างไปได้ถึงชั้น 3 ก็เกิดการยุบตัวของฐานขึ้นมา และต่อมาก็มีการสร้างหอต่อเติมขึ้นอีกจนแล้วเสร็จ โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมดถึง 177 ปี โดยที่หอเอนปิซ่านี้ กาลิเลโอ บิดาแห่งวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นชาวอิตาเลี่ยนได้ใช้เป็นสถานที่ทดลองทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของโลกที่ว่า สิ่งของสองชิ้น น้ำหนักไม่เท่ากัน ถ้าปล่อยสิ่งของทั้งสองชิ้นจากที่สูงพร้อมกัน ก็จะตกถึงพื้นพร้อมกัน จากนั้นให้ท่านอิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าที่ระลึกราคาถูก ที่มีร้านค้าเรียงรายอยู่มากมาย |
เย็น | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน |
ที่พัก | นำท่านเข้าสู่ที่พัก NH PISA หรือเทียบเท่า |
วันที่หก | ปิซ่า – ลา สเปเซีย – ชิงเกว แตร์เร |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
| นำท่านเดินทางสู่เมืองลา สเปเซีย (La Spezia) เมืองในเขตลิกูเรีย ตอนเหนือของอิตาลีอยู่ระหว่างเมืองเจนัว และ ปิซ่า ในบริเวณอ่าวลิกูเรหนึ่งในอ่าวที่มีความสําคัญทางด้านการค้าและการทหาร |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง |
| นําท่านโดยสารรถไฟสู่ชิงเกว แตร์เร (Cinque Terre) หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณริมชายฝั่งริเวียร่าของอิตาลี ที่มีความหมายว่า “ดินแดนทั้งห้า (Five Land)” ตั้งบนหน้าผาสูงชันเหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนียนติดทะเลบริเวณชายฝั่งแคว้นลิกูเรีย ประกอบด้วยหมู่บ้าน 5 แห่ง ได้แก่ MONTEROSSO AL MARE, VERNAZZA, CORNIGLIA, MANAROLA และ RIOMAGGIORE โดยทั้งห้าหมู่บ้านนี้ มีหุบเขาล้อมรอบ ประกอบกันเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติฯ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้อีกด้วย นําท่านชมความงามของหมู่บ้านที่มีสีสันสวยงาม สร้างลดหลั่นกันตามเนินผาริมทะเล นำท่านเดินเล่นชมหมู่บ้านริโอแมกจิโอเร่ (Rio –Maggiore) เป็นหมู่บ้านประมงเล็กๆ ที่มีเสน่ห์และมีบรรยากาศเหมือนเมืองตุ๊กตา บ้านเรือนที่ตั้งลดหลั่นกันบนหน้าผาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้เขียวขจีตัดกับนํ้าทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสีเทอร์ควอยซ์ อิสระให้ท่านชมความงดงามและถ่ายรูปตามอัธยาศัย จากนั้นนําท่านสู่หมู่บ้านมานาโรล่า (Manarola) อาจได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่เล็กเป็นอันดับสอง แต่มีความเก่าแก่ที่สุดในบรรดาหมู่บ้านทั้ง 5 ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1338 จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่เมืองลา สเปเซีย (La Spezia) |
เย็น | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง |
ที่พัก | นำท่านเข้าสู่ที่พัก NH LA SPEZIA หรือเทียบเท่า |
วันที่เจ็ด | ลา สเปเซีย – ปอร์โตฟิโน่ – เจนัว – Designer Outlet Serravalle – มิลาน – สนามบิน |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
| นำท่านเดินทางสู่ เมืองปอร์โตฟิโน่(Portofino) หมู่บ้านประมงเล็กๆในอิตาลี และเป็นรีสอร์ทเมืองสวรรค์สำหรับนักท่องเที่ยวในเมืองเจนัวของอิตาเลี่ยนริเวียร่า ล้อมรอบด้วยท่าเรือเล็กๆที่อยู่ท่ามกลางเมืองท่าของเมดิเตอร์เรเนียนที่สวยๆมากมาย เมืองปอร์โตฟิโน เป็นเมืองเล็กน่ารักด้วยบ้านเรือนหลากสีสันที่ตั้งอยู่ตามเชิงเขาเขียวชอุ่มโอบล้อมอ่าวที่มีเรือยอร์ช (Yatch) จอดเรียงรายอย่างเป็นระเบียบความสวยงามของที่นี่นั้นถึงกับทำให้บริษัทในเครือวอลท์ดิสนีย์ (WALT DISNEY) นำท่านสู่เมือง เจนัว (Genoa) เมืองที่ใหญ่ที่สุดของอิตาลีทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ โดยเมืองนี้มีชื่อเสียงจากการเป็นบ้านเกิดของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักเดินเรือที่ยิ่งใหญ่ของโลก ชมเขตเมืองเก่าศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป เป็นเมืองที่มีความรุ่งเรืองมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 11 มาจนถึง ค.ศ. 1797 ปัจจุบันเป็นเมืองศูนย์กลางเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ของอิตาลี่ได้แก่ เฟียต, อัลฟ่าโรมีโอ, แลนเซีย |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน |
| จากนั้นนำท่านช้อปปิ้งสินค้าใน Designer Outlet Serravalle ที่มีแบรนด์ชั้นนำของโลกมารวมไว้ที่นี่กว่า 230 ร้านค้าให้ท่านได้ช้อปปิ้งอย่างจุใจ ได้เวลาอันสมควรนำเดินทางสู่สนามบินเมืองมิลานเพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำการคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน |
21.30 น. | ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสารเที่ยวบินที่ WY144 |
วันที่แปด | มัสกัต – กรุงเทพฯ |
06.40 น. | เดินทางถึงสนามบินมัสกัต รอเปลี่ยนเครื่อง |
08.50 น. | ออกเดินทางต่อสู่กรุงเทพด้วยเที่ยวบินที่ WY815 |
18.00 น. | เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ |
ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นดีดี
@etravelway
รับโปรโมชั่นดีดี
เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
ทัวร์ถูกคุณภาพคุ้มค่า
ทัวร์หลุดจอง
@etravelway.fire
เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
fb.me/etravelway
สอบถามทาง Facebook