วันแรก | สนามบินสุวรรณภูมิ-ซิดนีย์-ควีนส์ทาวน์ |
15:00 น. | คณะพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ( ชั้น 4 ) ประตู 7 ROW N สายการบิน แควนตัสแอร์เวย์ พบเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยอำนวยความสะดวกในการตรวจเช็คสัมภาระและเอกสารการเดินทาง พร้อมรับเอกสารในการเดินทาง *หมายเหตุ* นิวซีแลนด์มีกฎหมายห้ามนำเข้า พืชผัก อาหารสด และแห้งทุกชนิด เข้าเมืองโดยเด็ดขาด |
18:10 น. | ออกเดินทางสู่ควีนส์ทาวน์ ประเทศนิวซีแลนด์ด้วยสายการบินแควนตัส แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ QF296 |
วันที่สอง | ซิดนีย์-ควีนส์ทาวน์-แอร์โร่ว์ทาวน์ |
06:30 น. | เดินทางถึงสนามบินคิงฟอร์ดสมิทธ์ ประเทศออสเตรเลีย เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง |
09:30 น. | เดินทางสู่ควีนส์ทาวน์ นิวซีแลนด์ โดยเที่ยวบินที่ QF121 |
14:30 น. | เดินทางถึงเมืองควีนส์ทาวน์ ประเทศนิวซีแลนด์ หลังผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว นำท่านเดินทางสู่ เมืองแอร์โร่ทาวน์ เมืองเล็กๆ ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองเหมืองทอง และทุกวันนี้ก็ยังคงมีทองอยู่ในลำธารข้างๆ เมือง ในตัวเมืองมีอาคารโบราณเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดให้ชมถึงประวัติศาสตร์ในยุคตื่นทองรวมทั้งชีวิตความเป็นอยู่ในสมัยนั้นที่น่าสนใจคือ เรื่องราวของนักขุดทองชาวจีนที่มาตื่นทองกับเขาด้วยเหมือนกัน มีถนนที่สำคัญคือบักกิ้งแฮมสตรีท (Backingham Street) ซึ่งมีสถานที่สำคัญร้านอาหาร ร้านขายของเรียงรายสองข้างทาง |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน พร้อมเมนูพิเศษกุ้งล๊อปสเตอร์!!! |
ที่พัก | NOVOTEL QUEENSTOWN HOTEL หรือระดับเทียบเท่า |
วันที่สาม | ควีนส์ทาวน์-ล่องเรือกลไฟโบราณ-Optional tour เรือเร็วเจ๊ทโบ๊ท+ กระโดดบันจี้จัมพ์ ยอดเขาบ็อบส์พีค-เล่นลูท-รับประทานอาหารค่ำบนยอดเขา |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
จากนั้นนำท่านขึ้นเรือกลไฟโบราณ อีกชื่อหนึ่ง Lady Of The Lake เป็นเรือกลไฟโบราณที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1912 เรือนี้เป็นเรือในดวงใจของชาวเมืองควีนส์ทาวน์ สมัยก่อนเรือลำดังกล่าวถูกสร้างขึ้นเพื่อขนส่งถ่านหิน แต่มาในปัจจุบันได้ปลดละวางและนำมาใช้เป็นเสมือนไกด์ผู้ทรงเกียรตินำพานักท่องเที่ยวล่องชมทะเลสาบวาคาทีปู ท่านจะได้สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติที่สวยงามจนแทบหยุดหายใจ หากท่านอยากจะหลบเข้ามาด้านในของเรือก็มีมุมให้ท่านนั่งฟังเสียงเปียโนบนเรือที่จะมีผู้บรรเลงขับกล่อมตลอดการเดินทาง อีกทั้งภายในเรือยังมีมุมนิทรรศการขนาดย่อมที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ความเป็นมาของการสร้างเรือตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวันแบบบาร์บีคิว ภายในฟาร์ม |
จากนั้นให้ท่านได้สัมผัสกับชีวิตและความเป็นอยู่ของของชาวชนบทในฟาร์มเลี้ยงแกะของนิวซีแลนด์โดยการชมการแสดงสุนัขต้อนแกะที่ช่วยผ่อนแรงเจ้าของฟาร์ม ชมการสาธิตการตัดขนแกะ ท่านจะสัมผัสได้ถึงความสวยงามเหมือนตกอยู่ในมนต์สะกด เมืองเล็กที่ตั้งอยู่ในวงล้อมของเทือกเขาขนาดใหญ่และอยู่ ริมทะเลสาบวาคาตีปู อิสระให้ท่านทำกิจกรรม หรือซื้อทัวร์นอกรายการ ที่เรียกได้ว่าหากไม่ทำกิจกรรมเหล่านี้เหมือนไม่ได้มาถึงนิวซีแลนด์ Option 1 - การนั่งเรือเจ๊ทโบท (JET BOAT) เรือเร็วที่จะกระชากความตื่นเต้นของลูกค้าตลอดเวลาที่นั่งอยู่บนเรือลำดังกล่าว ซึ่งจะพบความตื่นเต้นตั้งแต่เดินทางไป เป็นกิจกรรมที่มีชื่อเสียงอย่างยิ่งของนิวซีแลนด์ ท่านจะได้สัมผัสกับความเร็วหวาดเสียวสุดตื่นเต้นที่จะทำให้ลืมหายใจไปชั่วขณะหนึ่ง เรือลำนี้จะพาท่านแล่นไปตามเกาะแก่งในลำธานอันคดเคี้ยวหลายโค้ง บางจุดแฉลบผ่านโขดหิน บางจุดกระแทกผ่านผิวน้ำ และเมื่อถึงGame over เรือก็จะสะบัดโค้งด้วยแรงเหวี่ยงมหาศาลหมุน 360 องศา ที่จะทำให้หัวใจของท่านเต้นรัว แต่รับรองว่าท่านจะกลับไปพร้อมความสนุกสนานไม่รู้ลืม หรือท่านไหนที่ชอบความสูงและหวาดเสียวของแนะนำท่านได้พบกับกิจกรรมสุดท้าทาย
Option 2 - กระโดดบันจี้จัมพ์ (BUNGY JUMP) เรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของคนนิวซีแลนด์ เป็นกีฬาอย่างหนึ่งที่แสดงความกล้าหาญออกมา โดยจะกระโดดจากที่สูงตั้งแต่ 35-134 เมตร ซึ่งในปัจจุบันจะมีการใช้แถบยางลาเท็กซ์เหนียวผูกติดไว้กับตัวของนักกระโดด หรือไม่ก็ผูกติดเอาไว้ที่ข้อเท้าแล้วให้กระโดดลงไป ไม่ว่าจะเป็นกระโดดจากสะพานหรือจากหน้าผาถือเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่พลาดไม่ได้เมื่อเดินทางมาถึงนิวซีแลนด์ บันจี้จั้มที่สะพานคาวารัวนี้เป็นจุดกระโดดบันจี้แห่งแรกของโลก ที่เปิดทำการให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัสประสบการณ์อันหน้าตื่นเต้นโดย AJ HACKETT เป็นผู้เปิดกิจการนี้เป็นคนแรกในปี 1988 ประวัติของการกระโดบันจี้จัมพ์ย้อนกลับไปได้หลายสิบปี แต่ถ้าเป้นการกระโดดบันจี้จัมพ์แบบที่มีบริการทำเป็นการค้าจริงๆ จังๆ ครั้งแรก ก็คือที่ควีนส์ทาวน์ในนิวซีแลนด์นี่เอง ปัจจุบันควีนส์ทาวน์จึงกลายเป็นเมืองหลวงของการกระโดดบันจี้จัมพ์
(กิจกรรมนั่งเรือเร็วเจ๊ทโบ๊ตและกระโดดบันจี้อยู่นอกรายการทัวร์หากสนใจติดต่อที่หัวหน้าทัวร์) หลังจากนั้นนำท่านนั่งกระเช้ากอนโดล่าสู่ยอดเขาบ็อบส์พีค ยอดเขาสูง 730 เมตร ที่ยอดเขาแห่งนี้ ท่านจะได้สัมผัสความสวยงามของเมืองควีนส์ทาวน์ท้้งเมืองในมุมสูง ที่เราสามารถมองเห็นอาคารบ้านเรือนที่ปลูกสร้างตามไหล่เขา พร้อมกับทะเลสาบวาคาติปูที่สวยงามด้านล่าง หากมาเยือนในช่วงฤดูหนาว จะได้ชมยอดเขาที่ปกคลุมและเล่นสกีท่ามกลางหิมะ นอกจากนี้ก็ยังมีร้านอาหารให้ได้นั่งชิลไปกับบรรยากาศ และมีกิจกรรมอื่น ๆ ให้เราได้เพลิดเพลิน เช่น นั่งกระเช้ากอนโดล่า ขับ Skyline Luge ตามเส้นทางลาดชัด ขี่จักรยานไปตามเส้นทางธรรมชาติ ให้ท่านได้เล่นลูจ (Luge) คนละ 3 รอบ ซึ่งเป็นรถเลื่อนที่อาศัยความลาดชันของไหลเขาลงสู่ด้านล่างพร้อมให้ท่านได้ตี่นเต้นบนความสูงของยอดเขาพร้อมทัศนียภาพที่งดงาม เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งเด็กและผู้ใหญ่ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ พิเศษ..แบบบุฟเฟ่ต์นานาชาติ บนยอดเขาบ๊อบส์พีค พร้อมชมวิวอันสวยงามของเมืองควีนส์ทาวน์ |
ที่พัก | NOVOTEL QUEENSTOWN HOTEL หรือเทียบเท่า |
วันที่สี่ | ควีนส์ทาวน์-ล่องเรือมิลฟอร์ดซาวน์-ควีนส์ทาวน์ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
นำท่านเดินทางสู่มิลฟอร์ดซาวน์ ผ่านทะเลสาบเตอานาว ทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ ผ่านเขตป่าพรุ ป่าเบญจพรรณ ทุ่งกว้างเข้าสู่วนอุทยานแห่งชาติมิลฟอร์ดซาวด์ (MILFORD SOUND) ในดินแดนส่วนที่เป็นฟยอร์ดแลนด์ (FIORD LAND) ถูกประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติของขั้วโลกใต้ ซึ่งในลักษณะนี้มีเพียง 2 แห่งในโลก คือภูมิประเทศแบบทะเลที่เคยเป็นธารน้ำแข็งในยุคโบราณ กัดเซาะหินทำให้น้ำท่วมแทนที่กลายเป็นอ่าวลึก ระหว่างทางท่านจะได้ชมความงามที่สร้างโดยธรรมชาติทะเลสาบ MIRROR LAKE ทะเลสาบที่ใสราวกระจก เป็นทะเลสาบที่ท่านจะสามารถมองสะท้อนภาพภูเขาซึ่งเป็นวิวอยู่เบื้องล่าง ให้ท่านดื่มน้ำแร่บริสุทธิ์จากธรรมชาติที่ MONKEY CREEK และแวะชมน้ำตกที่มีความยิ่งใหญ่ที่ CHASM |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวันบนเรือ แบบบุฟเฟต์ พร้อมล่องเรือสำราญ MILFORD SOUND CRUISE ชมความงามของธรรมชาติโดยรอบ ตื่นตาตื่นใจกับสายน้ำตกอันสูงตระหง่านของน้ำตกโบเวน ซึ่งมีความสูง160เมตรจากหน้าผา ชมแมวน้ำนอนอาบแดดบนโขดหินอย่างสบายใจ |
จากนั้นล่องเรือกลับสู่ท่าเรือ เพื่อเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศกลับสู่เมืองควีนส์ทาวน์ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน พร้อมเมนูพิเศษกุ้งล๊อปสเตอร์ |
ที่พัก | NOVOTEL QUEENSTOWN HOTEL หรือเทียบเท่า |
วันที่ห้า | ควีนส์ทาวน์-ครอมเวลล์-ทไวเซิล-ฟาร์มแซลม่อน-เทคาโป |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
นำท่านเดินทางสู่เมืองครอมเวลล์ เมืองเล็กๆที่อยู่ทางเกาะใต้ของประเทศ เป็นแหล่งรวบรวมผลผลิตทางการเกษตรและยังได้รับสมญานามว่าเป็นเมืองแห่งผลไม้ของประเทศนิวซีแลนด์ แวะชิมผลไม้สดๆ กันที่ร้าน Jones\'s Fruit Stall ร้านนี้เป็นหนึ่งในแผงขายผลไม้ที่รู้จักกันดี โดยจะมีผู้คนจากทั่วทั้งในนิวซีแลนด์และทั่วโลกมาเยี่ยมชม มีทั้งผลไม้สดและผลไม้อบแห้ง ถั่ว ผลิตภัณฑ์น้ำผึ้ง และยังได้เพลิดเพลินกับสวนดอกไม้สไตล์อังกฤษที่มีดอกกุหลาบนับร้อยดอกให้ได้ชม |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
เดินทางผ่านเมืองทไวเซิล เมืองแห่งต้นไม้ของนิวซีแลนด์ นำท่านแวะชมฟาร์มปลาแซลมอน (Salmon Farm) ให้ท่านได้ชมวิธีการเพาะเลี้ยงปลาแซลมอน ซึ่งทุกท่านสามารถร่วมกิจกรรมให้อาหารปลา นอกจากนั้นยังสามารถเลือกซื้อและชิมปลาแชลมอนสดๆ ได้อีกด้วย ผ่านชมทะเลสาบที่สวยงามมีฉากหลังเป็นยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะตลอดทั้งปี เข้าสู่ทะเลสาบพูคากิ ทะเลสาบที่สวยงามจนได้ชื่อว่า Million Dollar View ซึ่งมียอดเขาเม้าท์คุ้กที่มีเทือกเขาสูงถึง 3,753 เมตร เหนือยอดเขามีหิมะและธารน้ำแข็งปกคลุมตลอดปีเป็นฉากหลัง (สำหรับท่านที่สนใจจะนั่งเฮลิคอปเตอร์ชมยอดเขา กรุณาติดต่อหัวหน้าทัวร์) สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางต่อสู่เทคาโป |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | PEPPER BLUE WATER TEKAPO หรือเทียบเท่า |
วันที่หก | เทคาโป-ทะเลสาบเทคาโป-ไคร้สท์เชิร์ช-ชมเมือง |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
นำท่านชมทะเลสาบที่ได้รับการยกย่องให้เป็นทะเลสาบที่สวยที่สุดในนิวซีแลนด์ ทะเลสาบเทคาโป ความสวยงามแบบที่สุดของที่สุด บนพื้นที่กว้างใหญ่ประมาณ 83 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 700 เมตร น้ำในทะสาบยังคงสีเทอร์ควอยซ์ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนก็เมื่อแสงอาทิตย์ตกกระทบสะท้อนกับผิวน้ำ สารละลายและแร่ธาตุต่างๆ ที่น้ำชะลงมาระหว่างทางที่ไหลลงมาจากยอดเขาที่สร้างโทนสีฟ้าสวยๆ ให้กับทะเลสาบแห่งนี้ ชมอนุสาวรีย์สุนัขต้อนแกะ “Sheepdog memorial” โดยการลงขันของกลุ่มผู้ประกอบกิจการท้องถิ่นและเกษตรกรในพื้นที่ มีภรรยาชาวไร่ผู้หนึ่งออกแบบปั้นแล้วส่งไปหล่อขึ้นรูปด้วยทองเหลืองที่อังกฤษ ก่อนจะเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 มีนาคม 1968 เพราะทุกคนซาบซึ้งใจดีว่าพื้นที่อันกว้างใหญ่ไพศาลที่ได้กลายมาเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของชาวบ้านถึงทุกวันนี้ก็มีเจ้าคอลลี่เหล่านี้นี่เองที่ช่วยบุกเบิกที่ทำกินมาเกือบ 50 ปีแล้ว บริเวณเดียวกันนั้นท่านจะได้ชม โบสถ์ของคนเลี้ยงแกะแสนดี “Church of the good Shepherd” เป็นโบสถ์หลังเล็กที่สุดในนิวซีแลนด์ คล้ายกระท่อมริมทะเลสาบเทคาโป มุมที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวหลังเดียวไม่ได้ทำให้โบสถ์หลังนี้เหงาเลย เพราะตลอดทั้งวันจะมีนักท่องเที่ยวขับรถแวะเวียนเข้ามาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกไม่ได้ขาด ตัวโบสถ์สร้างด้วยก้อนอิฐที่นำมาก่อรวมกันจนกลายเป็นตัวอาคารโบสถ์หลังย่อม และยังคงเปิดใช้เพื่อทำพิธีทางศาสนาเหมือนเช่นที่ผ่านมาหลายปี จากภายในโบสถ์เมื่อมองผ่านหน้าออกมาภายนอกจะเห็นวิวสวย ๆ ของทะเลสาบที่น่าประทับใจมาก |
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองแอชเบอร์ตัน (Ashburton) (ระยะทาง 138 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.40 ชม.) ศูนย์กลางการซื้อขายผลผลิตทางการเกษตรที่สำคัญของเกาะใต้ คนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำฟาร์มเลี้ยงแกะ หรือฟาร์มวัว ที่นี่จึงเป็นแหล่งรวมสินค้าและผลิตภัณฑ์จากแกะ ขนแกะ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว อาหารเสริม และของที่ระลึกอื่นๆ ให้ท่านได้แวะซื้อครีมรกแกะ ของที่ระลึก |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
นำท่านเดินทางสู่ เมืองไคร้สท์เชิร์ช (Christchurch) (ระยะทาง 90 กม.) เมืองที่ได้รับสมญานามว่า “เมืองอังกฤษนอกเกาะอังกฤษ” ผ่านชมสวนสาธารณะแฮกลีย์ แวะถ่ายรูปพิพิธภัณฑ์แคนเทอเบอรี่ (Canterburry Museum) ตั้งขึ้นเมื่อปี คศ. 1870 ท่านจะได้ชมความเป็นอยู่และเครื่องมือดำรงชีพของชาวเมารีในสมัยโบราณพร้อมทั้งชมการจำลองอาคารบ้านเรือนของชาวเมืองไคร้สเชิร์ท ในยุคแรกๆ พร้อมทั้งเดินชมภายใน พิพิธภัณฑ์ ซึ่งมีหลายชั้นและจัดเป็นห้องต่างๆ |
นำท่านชมสะพานแห่งความทรงจำ (Bridge of Remembrance) หนึ่งในสองอนุสรณ์สถานสงครามหลักในเมืองไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับผู้เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1 และทำหน้าที่เป็นอนุสรณ์สำหรับผู้ที่เข้าร่วมในสงครามโลกครั้งที่ 2 รวมถึงความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในบอร์เนียว เกาหลี มาลายา และเวียดนาม ตั้งอยู่บนสะพาน Cashel Street ตรงหัวของ City Mall |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | DISTINCTION HOTEL CHRISTCHURCH หรือเทียบเท่า |
วันที่เจ็ด | ไคร้สท์เชิร์ช-ไคคูร่า-ล่องเรือชมปลาวาฬ-ไคร้สท์เชิร์ช |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
นำท่านเดินทางขึ้นทางตอนเหนือของเกาะใต้สู่เมืองไคคูร่า ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆน่ารักริมฝั่งทะเลทางตะวันออก ในอดีตเมืองแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของเมืองท่าเรือล่าปลาวาฬ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1843 - 1922 และยังเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์เหมาะสำหรับการเพาะปลูกและเลี้ยงแกะ เมืองไคคูร่ามีชื่อเสียงด้านการจัดทัวร์ชมปลาวาฬเป็นอย่างมาก และยังเป็นเจ้าแรกในนิวซีแลนด์ที่จัดให้มีทัวร์ชมปลาวาฬ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน แบบตะวันตก |
นำท่านลงเรือยอร์ชลำใหญ่ที่มีความจุได้ถึง 40-50 คน สู่กลางทะเลเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์การผจญภัย ชมปลาวาฬยักษ์พันธุ์สเปริ์ม ซึ่งเป็นสัตว์ที่สง่างามที่สุดของโลก ในธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ท่านอาจจะพบกับปลาโลมาสีเท่า นกทะเลหลากชนิด แมวน้ำ และอาจจะยังได้ชมปลาวาฬอีกหลากหลายพันธุ์ที่แวะเวียนเข้ามาเยือนชายฝั่ง ในบางฤดูกาลอีกด้วย (ใช้เวลาในการล่องเรือประมาณ 2 ชั่วโมง - การออกเรือชมปลาวาฬขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ในกรณีที่มีพายุหรือลมแรง ไม่สามารถออกเรือได้ บริษัทฯ จะคืนค่าล่องเรือให้ในราคากรุ๊ปทัวร์ที่จองเอาไว้ และสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบไม่อนุญาตให้ขึ้นเรือเพื่อความปลอดภัย)
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองไคร้สท์เชิร์ช |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร เมนูพิเศษ..เป๋าฮื้อทะเลใต้-หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์อบ เสิร์ฟพร้อมไวน์แดง |
ที่พัก | DISTINCTION HOTEL CHRISTCHURCH หรือเทียบเท่า |
วันที่แปด | ไคร้สท์เชิร์ช-ซิดนีย์-กรุงเทพฯ |
06:05 น. | ออกเดินทางกลับสู่ สนามบินคิงฟอร์ดสมิทธ์ โดยสายการบินแควนตัสแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ QF 138 |
07:35 น. | เดินทางถึงสนามบินคิงฟอร์ดสมิทธ์ ออสเตรเลีย แวะเปลี่ยนเครื่อง เพื่อเดินทางสู่ ประเทศไทย |
09:50 น. | ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบิน แควนตัสแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ QF295 |
16:40 น. | เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจตลอดการเดินทาง |
ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นดีดี
@etravelway
รับโปรโมชั่นดีดี
เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
ทัวร์ถูกคุณภาพคุ้มค่า
ทัวร์หลุดจอง
@etravelway.fire
เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
fb.me/etravelway
สอบถามทาง Facebook