เปิดทำการ จ - ศ : 08.30 - 22.00 น. ส - อา : 09.00 - 22.00 น.
eTravelWay.com logo
Add Friend Add Friend
ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นดีดี

เพิ่มเพื่อน LINE รับข่าวสาร โปรโมชั่น
@etravelway

รับโปรโมชั่นดีดี
Add Friend
เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
ทัวร์ถูกคุณภาพคุ้มค่า
ทัวร์หลุดจอง
เพิ่มเพื่อน LINE ทัวร์ไฟไหม้
@etravelway.fire

เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
แชทผ่าน Facebook ติดต่อผ่าน Facebook
fb.me/etravelway

สอบถามทาง Facebook
ทัวร์อินเดีย
คลิก ดูโปรแกรมเต็ม
จองทาง LINE @etravelway Share

ทัวร์อินเดีย

 รหัส : Z11682
เดินทางโดย : TG-การบินไทย
โรงแรม : 5 ดาว |  จำนวนวัน : 7 วัน 6 คืน
ทัวร์ VIP บินตรงการบินไทย อิ่มบุญ อินเดีย - เนปาล 4 สังเวชนียสถาน : แม่น้ำเนรัญชรา - มรดกโลกพุทธคยา - ต้นพระศรีมหาโพธิ์ - เขาคิชฌกูฏ - วัดพระเวฬุวัน - เมืองไวสาลี - มหาสถูปเกสรียา - เมืองกุสินารา - มหาปรินิพพานสถูป - มรดกโลกลุมพินีวัน (เนปาล) - เสาหินพระเจ้าอโศก - แม่น้ำคงคา - ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน - พิพิธภัณฑ์สารนาถ พุทธคยา

กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ) - สนามบินคยา - บ้านนางสุชาดา - แม่น้ำเนรัญชรา - มรดกโลกพุทธคยา - ต้นพระศรีมหาโพธิ์ - พระแท่นวัชรอาสน์ - สัตตมหาสถาน - พระพุทธเมตตา - วัดไทยพุทธคยา
คยา - ราชคฤห์ - เขาคิชฌกูฏ - วัดพระเวฬุวัน - ตโปธาร - ม.นาลันทา - หลวงพ่อพระองค์ดำ - ปัตนะ
ปัตนะ - เมืองไวสาลี - วัดกูฎาคารศาลาป่ามหาวัน - มหาสถูปเกสรียา - เมืองกุสินารา
เมืองกุสินารา - มหาปรินิพพานสถูป - มกุฎพันธนเจดีย์ - วัดไทยกุสินาราฯ - ลุมพินี (เนปาล)
เมืองสิทธารถนคร - มรดกโลกลุมพินีวัน - วิหารมายาเทวี - เสาหินพระเจ้าอโศก - สระโบกขรณี - เมืองพาราณสี
เมืองพาราณสี - แม่น้ำคงคา - เจาคันธีสถูป - ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน - พิพิธภัณฑ์สารนาถ พุทธคยา
เมืองคยา - สนามบินคยา - กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ)
ไม่รวม ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น พนักงานขับรถ และหัวหน้าทัวร์คนไทย ที่เดินทางไปพร้อมคณะ ท่านละ 700 บาทตลอดทริป (ชำระพร้อมค่าทัวร์ส่วนเหลือ) - ค่าภาษีน้ำมัน ที่สายการบินเรียกเก็บเพิ่ม ภายหลังจากทางบริษัทฯได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว
คลิกดูโปรแกรมฉบับเต็ม (PDF)
เดินทาง :
01 พ.ย. 2567
-
07 พ.ย. 2567
฿
48,500
Download PDF

อิ่มบุญ อินเดีย - เนปาล 4 สังเวชนียสถาน 7 วัน 6 คืน

โดยสายการบินไทย

กำหนดการเดินทาง วันที่1-7 พ.ย. 2568

โปรแกรมการเดินทาง

DAY1กรุงเทพ - สนามบินคยา - บ้านนางสุชาดา - แม่น้ำเนรัญชรา - มรดกโลกพุทธคยา -

 1 NOV 25 พระศรีมหาโพธิ์ - พระแท่นวัชรอาสน์ - สัตตมหาสถาน - พระพุทธเมตตา - วัดไทยพุทธคยา

08:00น. คณะเดินทางมาพร้อมกัน ณ. สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารโดยสารขาออกระหว่างประเทศ ประตูทางเข้า หมายเลข 4 เคาน์เตอร์การบินไทย ชั้นที่ 4 เจ้าหน้าที่ตั้งป้ายให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการช่วยเช็คอิน

11:00น.ออกเดินทางสู่สนามบินคยา ประเทศอินเดียโดยสายการบินไทยเที่ยวบินที่ TG 327

(พร้อมน้ำหนักกระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่องท่านละ 1 ใบ น้ำหนักรวมสูงสุดไม่เกิน 20 กิโลกรัม และถือขึ้นเครื่องได้อีกท่านละ 1 ใบ ไม่เกิน 7 กิโลกรัม)

12:40น.เดินทางถึงสนามบินคยา ประเทศอินเดีย(เวลาที่อินเดียช้ากว่าเมืองไทย 1 ชั่วโมง 30 นาที แนะนำให้ทุกท่าน ปรับเวลาทันทีที่ไปถึงเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันเวลานัดหมาย) หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและ รับกระเป๋า สัมภาระ นำท่านเดินทางสู่เมืองพุทธคยาอันเป็นสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า นำท่านเดินทางสู่บ้านนางสุชาดาที่ถูกสร้างไว้เป็นสถูปของศาสนาพุทธ ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านอุรุเวลาเสนานิคม รัฐพิหาร ประเทศอินเดียไม่ไกลจากแม่น้ำเนรัญชรา โดยนางสุชาดาท่านนี้คือ ผู้ถวายข้าวมธุปายาส เป็นข้าวหุงด้วยน้ำนมและธัญพืช น้อมถวายพระมหาบุรุษก่อนตรัสรู้ ขณะที่ทรงประทับอยู่ใต้ต้นไทร เป็นการยุติการบำเพ็ญทุกรกิริยาตลอด 6 ปี ประกอบด้วยการบำเพ็ญวัตร/ตบะและการอดอาหาร โดยทรงค้นพบหลักธรรม มัชฌิมาปฏิปทา (หรือ ทางสายกลาง)และนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่โรงแรมที่พัก

บ่าย จากนั้น พาชมวัดไทยพุทธคยา ซึ่งเป็นวัดไทยแห่งแรกในต่างแดนพระอุโบสถจำลองแบบจากวัดเบญจมบพิตรประดิษฐานพระพุทธชินราชจำลอง ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องพระมหาชนกอันงดงาม

นำท่านสู่ พระมหาโพธิ์เจดีย์ พุทธคยา ซึ่งสร้างโดยพระเจ้าหุวิชกะ ในพุทธศตวรรษที่ 7 โดยมีรูปแบบผสมผสานเจดีย์ แบบพุทธตั้งอยู่เหนือปรางค์แบบฮินดู จนเกิดเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีสัญลักษณ์ที่สำคัญคือ องค์เจดีย์สี่เหลี่ยมที่สูงใหญ่ โดย สูงถึง 51 เมตร ฐานวัดโดยรอบได้ 121.29 เมตร ล้อมรอบด้วยพระพุทธรูปและสถูปเจดีย์

จากนั้นนำท่านสักการะ ต้นพระศรีมหาโพธิ์(สังเวชนียสถานแห่งที่ 2) สถานที่ตรัสรู้ซึ่งปัจจุบันเป็นต้นที่ 4 พระแท่นวัชรอาสน์ ซึ่งพระเจ้าอโศกมหาราชสร้างถวายไว้ตรงสถานที่รัตนบัลลังก์

นำชม สัตตมหาสถาน สถานที่ 7 แห่ง พระพุทธองค์เสวยวิมุติสุข 7 สัปดาห์หลังตรัสรู้ นำกราบ พระพุทธเมตตาศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานภายในพระมหาโพธิ์เจดีย์พันกว่าปี นำท่านไหว้พระสวดมนต์ ประทักษิณ บริเวณลานต้นพระศรีมหาโพธิ์สถานที่ตรัสรู้

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ที่พักเข้าสู่ที่พัก Marasa Sarovar Premiere 5* หรือระดับเดียวกัน ณ เมืองคยา


หลังอาหารค่ำนำท่านสวดมนต์ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่พระมหาเจดีย์พุทธคยา จนสมควรแก่เวลานำท่านกลับเข้าสู่ที่พัก

Day2 พุทธคยา - ราชคฤห์ - เขาคิชฌกูฏ - นาลันทา - วัดพระเวฬุวัน - ตโปธาร -

 2 NOV 25 มหาวิทยาลัยนาลันทา - สักการะหลวงพ่อองค์ดำ – ปัตนะ

เช้ารับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

หลังรับประทานอาหารเช้าพาท่านเดินทางไปยัง ราชคฤห์ (ระยะ 70 กิโลเมตร เดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองหลวงของ แคว้นมคธอันเจริญรุ่งเรืองในเมื่อสมัยพุทธกาลปกครองโดยพระเจ้าพิมพิสาร ซึ่อล้อมรอบด้วยภูเขา จนได้รับนามว่า “เบญจคีรีนคร” ซึ่งยังปรากฏกำแพงเชิงเทินล้อมรอบตามสันเขาทั้ง 5 ลูก เป็น ปราการอันเข้มแข็งคล้ายกำแพงเมืองจีนนำท่านขึ้น เขาคิชฌกูฏ สถานที่ซึ่งพระพุทธองค์ทรงโปรดประทับมากที่สุดในเมืองนี้

(การขึ้นเขาคิชกูฏ ซึ่งเป็นการเดินขึ้นที่สูง ลาดชันพอประมาณ ระยะทางโดยรวมประมาณ 750 เมตร ทุกท่านจะต้องเดินขึ้นหรือนั่งเสลี่ยงได้)

นมัสการ “พระคันธกุฏีพระพุทธองค์” หรือ \"พระมูลคันธกุฎี\" ในพุทธประวัติ เล่าว่าสถานที่ประทับของพระพุทธเจ้าทุกแห่งจะมีผู้นำของหอมนานาชนิดไม่ว่าจะเป็นไม้หอม ดอกไม้หอม เป็นต้น มาบูชาพระพุทธเจ้ามิได้ขาด

ชมกุฏิพระอานนท์, ถ้ำสุกรขาตา สถานที่พระสารีบุตรบรรลุพระอรหันต์ ชมสถานที่พระเทวทัตกลิ้งหินลอบปลงพระชนม์พระพุทธองค์ ชม “วัดชีวกัมพวัน/ โรงพยาบาลสงฆ์แห่งแรกของโลก” ซึ่งแพทย์หลวงพระโสดาบันชีวกโกมารภัจจ์ เคยใช้เป็นที่ปฐมพยาบาลพระพุทธเจ้า เมื่อครั้งถูกพระเทวทัตทำอนันตริยกรรม

ชม “วัดเวฬุวนาราม วัดแห่งแรกของ โลก” “วัดเวฬุวันมหาวิหาร” หรือ พระวิหารเวฬุวันกลันทกนิวาปสถานเป็นอารามแห่งแรกในพระพุทธศาสนา ตั้งอยู่ใกล้เชิงเขาเวภารบรรพต (ซึ่งภูเขานี้มีถ้ำสัตตบรรณเคยเป็นสถานที่สังคายนาพระธรรมวินัย ครั้งแรก)


คำว่า เวฬุวัน แปลว่า สวนไผ่ เดิมอารามแห่งนี้เป็นพระราชอุทยานของพระเจ้าพิมพิสาร กษัตริย์แคว้นมคธ ตั้งอยู่นอกเมืองราชคฤห์ เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วได้เสด็จไปยังเมืองราชคฤห์ พระเจ้าพิมพิสารพร้อมด้วยข้าราชบริพารเข้าไปเฝ้า หลังจากทรงสดับธรรมแล้วทรงเลื่อมใสจึงถวายสวนเวฬุวันเป็นพุทธบูชา ต่อมาได้ถือกันว่าสถานที่นี้เป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา เรียกว่า เวฬุวันมหาวิหารวัดนี้เป็นสถานทีพระพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์แก่เอหิภิกขุจำนวน 1,250 องค์ ที่มาชุมนุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย อันเป็นที่มาของ “วันมาฆบูชา” ภายในวัดมีสระกลันทกะนิวาปะ ซึ่งพระเจ้าพิมพิสารทรงโปรดให้สร้างพื้นที่นี้คือสถานที่อภัยทาน ใกล้กันคือตโปธาร บ่อน้ำแร่น้ำร้อน มีมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาล เป็นต้นเหตุของการมีพุทธานุญาตให้ภิกษุสรงน้ำทุก 15 วัน ส่วนชาวฮินดูเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลผ่านขุมนรกชั้นโลหกุมภีร์ จึงนิยมมาอาบน้ำแร่ เพราะเชื่อว่าเมื่ออาบแล้วจะได้ บุญและสามารถรักษาโรคร้ายได้ โดยแบ่งตามระดับวรรณะ

เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

บ่าย นำท่านเดินทางไปยังเมืองนาลันทา (ระยะทาง 20 กิโลเมตร เดินทางประมาณ 30 นาที)

เมืองบ้านเกิดของพระสารีบุตร อัครสาวกเบื้องขวาของพระพุทธเจ้า นำชม “มหาวิทยาลัยนาลันทา”มหาวิทยาลัยสงฆ์ แห่งแรกของโลก” ที่เคยรุ่งเรืองและยิ่งใหญ่เมื่อพันปีมาแล้ว โดยเป็นศูนย์กลาง พุทธศาสนาในสมัยโบราณมีนักศึกษามาจากนานาประเทศรวมทั้งพระถังซัมจั๋งจากเมืองจีน

จากนั้นนำท่านสักการะ “หลวงพ่อพระองค์ดำ” พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์แกะสลักด้วยหินแกรนิตสีดำ ปาง นั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ชี้แม่พระธรณีเป็นพยาน หน้าตักกว้าง 69 ฟุต สร้างในสมัยพระเจ้าเทวปาละ เมื่อประมาณ พ.ศ. 1353-1393 ประดิษฐานอยู่ทางด้านทิศเหนือของมหาวิทยาลัยนาลันทา ตามประวัติที่ถูกจารึกโดย ท่านตรานารถ และท่านธรรมสวามินบันทึกไว้ว่า เมื่อประมาณปี ๑๗๖๖ หลังจากกองทัพมุสลิมเข้าปกครองดินแดนชมพูทวีปฝ่ายเหนือ กองทัพมุสลิมนำโดย อิคเทีย ซิลจิ พร้อมทหารประมาณ 200 คน ได้กรีฑาทัพเข้าไปในมหาวิทยาลัยนาลันทา ทำลายพระพุทธรูปและศิลปกรรมต่าง ๆ ก่อนจะยกทัพกลับไปเมืองภัคทัยปูร์ ทำให้ หลวงพ่อพระองค์ดำถูกเศษอิฐและหินทับถมลงใต้แผ่นดินเป็นเวลานานเกือบ 7 ศตวรรษ หรือ ประมาณเกือบ 700 ปี 

จนกระทั่งมีนักปราชญ์ด้านโบราณคดีชื่อ เซอร์ฯ คันนิ่งแฮม ได้ศึกษาและอ่าน บันทึกของพระถังซัมจั๋ง เกี่ยวกับเรื่องของมหาวิทยาลัยนาลันทาและนำคณะเข้ามาสำรวจขุดค้น ได้พบพระเจดีย์ที่ตั้งอยู่กลางมหาวิทยาลัย พบโบราณวัตถุจำนวนมาก ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์นาลันทา และในบรรดาพระพุทธรูปที่ขุดพบทั้งหมดมีเพียง \'หลวงพ่อองค์ดำ\' องค์เดียวเท่านั้นที่มีความสมบูรณ์ที่สุด เพียงพระนาสิกและนิ้วพระหัตถ์ที่บิ่นเล็กน้อย มหาวิทยาลัยนาลันทาได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เมื่อปี 2564

จากนั้นเดินทางสู่ เมืองปัตนะ (ระยะทาง 83 กิโลเมตร เดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) อดีตมีชื่อเรียกว่าปัตนะ ปาฏลีบุตร แคว้นมคธ ปัจจุบันเป็นเมืองหลวงของรัฐพิหาร ในอดีตเมืองนี้เคยเป็นสถานที่ทำสังคายนาพระไตรปิฏกครั้งที่ 3 ที่พระเจ้าอโศกมหาราชสร้างถวาย และเผยแผ่ไปทั่วอินเดียและนอกชมพูทวีป

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ  ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ที่พัก The Royal Bihar 5* หรือเทียบเท่า ณ เมืองปัตนะ

 Day3 ปัตนะ - เมืองไวสาลี - วัดกูฎาคารศาลาป่ามหาวัน - มหาสถูปเกสรียา - เมืองกุสินารา

 3 NOV 25

เช้ารับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

นำทุกท่านออกเดินทางสู่ เมืองไวสาลี (ระยะทาง 35 กิโลเมตร เดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)

อดีตเคยเป็นเมืองหลวงของแคว้นวัชชีในสมัยพุทธกาล ซึ่งพระพุทธองค์เคยมาโปรดให้ชาวเมืองรอดพ้นจากโรคอหิวาตกโรคและภัยทั้ง 3 ชมสถานที่เคยประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเหล่ากษัตริย์วัชชีได้รับแบ่งมาหลังถวายพระเพลิงพุทธสรีระ 1 ใน 8 ส่วน นอกจากนี้ เมืองไวสาลี ยังปรากฏสระน้ำกว้างใหญ่ที่สุดใช้ในพิธีราชาภิเษกของกษัตริย์ลิจฉวี และแนวกำแพงดินวังโบราณที่หลงเหลืออยู่ จากนั้นนำเข้าวัดกูฎาคารศาลาป่ามหาวัน หรือวัดมหาวัน พระพุทธองค์ทรงจำพรรษาที่ 5 และทรงประทานการบวชภิกษุณีรูปแรก พร้อมทั้งเป็นที่เกิดของรัตนสูตร ที่มาของน้ำพระพุทธมนต์ ได้เห็นเสาอโศกที่มีสิงห์ทั้งตัวที่สมบูรณ์ที่สุดหนึ่งเดียวในอินเดีย ประทักษิณรอบ “มหาสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุมากที่สุดในชมพูทวีป”

นมัสการ “วัดกูฏาศาลาป่ามหาวัน” ซึ่งปรากฏสถูปทรงโอคว่ำ และเสาหินของพระเจ้าอโศกมหาราชที่สมบูรณ์ที่สุดที่ยัง ปรากฏสิงโตหินบนยอดเสา และวัดนี้ยังเป็นที่พระพุทธองค์ประทานพุทธานุญาตบวช พระนางปชาบดีโคตรมี เป็นพระภิกษุณีรูปแรกของโลก นำทุท่านนมัสการซาก วัดวาฬุการาม สถานที่ประชุมสังคายนา พระไตรปิฎกครั้งที่ 2 ในสมัยพระเจ้ากาฬเสาหินพระเจ้าอโศกอายุ2300ปี

เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน  ณ ภัตตาคารท้องถิ่น (Vaishali Restaurant หรือระดับเทียบเท่า)

จากนั้นพาท่านเดินทางไปยัง เมืองกุสินารา(ระยะทาง 260 กิโลเมตร เดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง)

เป็นที่ตั้งของสังเวชนียสถานแห่งที่ 4 ดินแดนแหงพุทธปรินิพพาน ระหว่างทางนำท่านชม มหาเจดีย์เกสริยา แคว้นวัชชี รัฐพิหาร ก่อนถึงเมืองกุสินาราประมาณ 120 กิโลเมตร ซึ่งถูกค้นพบเมื่อปี ค.ศ. 1998 เป็นโบราณสถานที่ถูกค้นพบ ล่าสุดในอินเดีย เชื่อว่าเป็นเจดีย์ยุคแรก ๆ ของพระพุทธศาสนา ความกว้างของฐานเจดีย์โดยรอบ กว้างกว่า 650 เมตร ความสูงที่คงเหลือประมาณ 40 เมตร อันเนื่องจากแผ่นดินไหวในปี ค.ศ. 1934 ทำให้ความสูงลดลง ปัจจุบันมหาเจดีย์นี้เป็นมหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย

จากการสันนิษฐานของกองโบราณคดีอินเดีย คาดว่าที่นี่ยังสร้างไม่เสร็จ ถ้าสร้างเสร็จอาจจะมีขนาดใหญ่กว่าบุโรพุทโธ และที่สำคัญกองโบราณคดีฯ ได้ขุดค้นไว้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น เพื่อให้เห็นถึงโครงสร้างของโบราณสถาน และป้องกันการพังทลายขององค์เจดีย์ สันนิษฐานว่า ประดิษฐานบาตรของพระพุทธเจ้า ที่ทรงประทานแก่เจ้าชาววัชชีเมืองไวสาลี ที่ตามมาส่งเสด็จพระพุทธองค์เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเสด็จไปยังเมืองกุสินาราเพื่อ เสด็จดับขันธปรินิพพาน คาดว่าสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกในช่วงพุทธศตวรรษที่ 4 - 6 รูปลักษณะด้านบนของเจดีย์จะมีลักษณะคล้ายเจดีย์ชเวดากอง และองค์พระปฐมเจดีย์ที่ประเทศไทย และมีลักษณะจะคล้ายกับมหาเจดีย์บุโรพุทโธมาก มีฐาน และซอกมุมขององค์เจดีย์สำหรับประดิษฐานพระพุทธรูป และยังมีแบ่งเป็นชั้นๆ ที่คล้ายคลึงกัน แต่มหาสถูปเกสริยานั้นสร้างขึ้นก่อน และมีความเป็นไปได้ว่าบุโรพุทโธจะได้รับอิทธิพลศิลปะการสร้างจากมหาเจดีย์เกสริยาก็เป็นไปได้

 ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ที่พัก The Imperial Kushinagar5*


หรือเทียบเท่า ณ. เมืองกุสินารา

 Day4กุสินารา - มหาปรินิพพานสถูป - มกุฎพันธนเจดีย์ - พระธาตุเจดีย์ที่วัดไทยกุสินารา -

 4 NOV 25 ลุมพินี (เนปาล)

เช้า รับประทานอาหารเช้า  ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

สักการะสาลวโนทยาน มหาปรินิพพานสถูป(สังเวชนียสถาน แห่งที่ 4) สถานที่เสด็จดับขันธปรินิพพาน ซึ่งมีลักษณะเป็นสถูปทรงบาตรคว่ำสูงใหญ่ มีฉัตร 3 ชั้น เคยพังลงมาเมื่อปี 2506 ปัจจุบันได้รับการบูรณะแล้ว ด้านหน้าเป็นมหาปรินิพพานวิหาร ภายในมีพระพุทธรูปปางปรินิพพาน ฝีมือช่างชาวมถุรา สร้างด้วยหินทรายแดง อายุ 1600-1900 ปี มีความงดงามอย่างยิ่ง บริเวณโดยรอบยังมีซากโบราณสถาน หมู่กุฏิสงฆ์สถูปเจดีย์ มากมาย แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของพุทธศาสนาในสมัยโบราณ ก่อนพระพุทธศาสนาจะเสื่อมไปจากอินเดีย

จากนั้นนมัสการ มกุฏพันธนเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ ซึ่งเหล่าบรรดามัลละกษัตริย์ ได้เลือก สถานที่ๆเคยใช้เป็นที่ประกอบพิธีสวมมงกุฎ รับตำแหน่งกษัตริย์แห่งแคว้นมัลละมาแต่โบราณ ปัจจุบันเป็นซากเจดีย์ทรงกลมขนาดใหญ่สร้างในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช เป็นที่รวมของพระบรมสารีริกธาตุก่อนจะแบ่งปันไปตามแคว้นต่างๆ ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำหิรัญวดี สถานที่พระอานนท์ตักน้ำมาถวายพระพุทธเจ้าครั้งสุดท้าย และห่างจากสาลวโนทยานประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นสถานที่จริงของวันอัฏฐมีบูชา เคยเป็นที่ชุมนุมของเทวดามากมาย

นำทุกท่านเดินทางไปยังวัดไทยกุสินารา ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างกึ่งกลางของสาลวโนทยานกับมกุฎพันธเจดีย์ เพื่อสักการะพระมหาธาตุเฉลิมราชย์ศรัทธา เป็นพระมหาเจดีย์ในพระพุทธศาสนาได้สร้างขึ้นที่เมืองกุสินารา ด้วยพระราชศรัทธาของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ ภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเส้นพระเจ้าของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ภายในเจดีย์มีอสีติมหาสาวก ๘๐ องค์ กับเหล่าเทวา

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน  ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

 (โปรดเตรียมหนังสือเดินทางไว้กับตัวเพื่อประทับตราบริเวณด่านชายแดน ออกจากประเทศอินเดีย เข้า ประเทศเนปาล)

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองสิทธัตถะนคร ใกล้ลุมพินีชายแดนประเทศเนปาล(ระยะทาง 160 กิโลเมตร เดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) หลังผ่านด่านเข้าสู่ประเทศเนปาล นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม


ที่พักPawan Palace 5* หรือเทียบเท่า ณ เมืองลุมพินี

Day 5 เมืองสิทธารถนคร - สวนลุมพินีวัน - วิหารมายาเทวี - เสาหินพระเจ้าอโศก –

5 NOV 25 สระโบกขรณี - เมืองพาราณสี (อินเดีย)

เช้า รับประทานอาหารเช้า  ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

นำท่านสู่ สวนลุมพินีวัน(สังเวชนียสถานแห่งที่ 1)มรดกโลกอุทยานพุทธนานาชาติลุมพินี ประเทศเนปาล สถานที่พระนางสิริมหามายาประสูติเจ้าชายสิทธิธัตถะราชกุมาร วันเพ็ญเดือน 6 ปีจอ 80 ปี ก่อนพุทธศักราช ชม วิหารมายาเทวี ภายในมีศิลาจำหลักพระนางสิริมหามายาประสูติพระราชกุมาร และ รอยพระบาทน้อยบนแผ่นหินบริเวณที่เชื่อว่าเป็นจุดที่ประสูติและสันนิษฐานว่าพระเจ้าอโศกสร้างถวายเป็นพุทธบูชา ชมเสาพระเจ้าอโศกความสูง 22 ฟุ ต 4 นิ้วจารึกว่า “ณ ที่นี่คือ สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้าศากยมุนี พระเจ้าอโศกเสด็จมาบูชาในปีที่ 20 แห่งรัชกาลของพระองค์” ชมสระโบกขรณีในพุทธประวัติกึ่งกลาง2นครคือเทวทหะและกบิลพัสดุ์

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน  ณ ห้องอาหารของโรงแรม

(โปรดเตรียมหนังสือเดินทางไว้กับตัวเพื่อประทับตราบริเวณด่านชายแดน ออกจากประเทศเนปาล เข้าประเทศอินเดีย)

บ่าย นำท่านข้ามแดนออกจากประเทศเนปาล สู่ประเทศอินเดีย เดินทางถึงด่านชายแดนเนปาล-อินเดีย ประทับตราหนังสือเดินทาง ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง นำท่านเดินทางสู่ เมืองพาราณสี (เดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง)

 ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ  ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ที่พัก Radisson Hotel Varanasi5* หรือ เทียบเท่า ณ เมืองพาราณสี

Day 6 เมืองพาราณสี - ล่องแม่น้ำคงคา - เจาคันธีสถูป - ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน -

 6 NOV 25 พิพิธภัณฑ์สารนาถ - พุทธคยา

05.00น. นำท่านล่องแม่น้ำคงคา ยามอาทิตย์อรุโณทัย เดินผ่านตัวตลาดของเมืองพาราณสี ที่คับคั่งไปด้วยผู้คน ชมวิถีชีวิตชาวเมืองพาราณสี สู่ ท่าเรือทัศวเมศ เพื่อล่องเรือชมแม่น้ำคงคา แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดู เพราะเชื่อว่าแม่น้ำสายนี้ไหลมาจากภูเขาไกรลาสบนสรวงสวรรค์ ริมฝั่งแม่น้ำเป็นสถานที่ประกอบพิธี อาระทิบูชา หรือการอาบน้ำล้างบาป ตลอดจนการเผาศพ ณ ท่ามณีกรรณิการ์ ซึ่งไฟไม่เคยมอดดับมาตลอดระยะเวลา 4,000 ปี จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ที่พัก

เช้า รับประทานอาหารเช้า  ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน(สังเวชนียสถานแห่งที่ 3)(ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร เดินทาง 30 นาที) สถานที่แสดงปฐมเทศนา ปัจจุบันเรียก “สารนาถ” เมืองพาราณสีอยู่ห่างจากเมืองพุทธคยา สถานที่พระพุทธองค์ตรัสรู้ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 260 กิโลเมตร

ผ่านนมัสการเจาคันธีสถูป สถานที่พระพุทธองค์พบปัญจวัคคีย์ ชม ธัมเมกขะสถูป สถานที่ทรงแสดงปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ และเกิดพระรันตรัยขึ้นเป็นครั้งแรกในโลก ธรรมราชิกสถูป ที่พระอัญญาโกณฑัญญะบรรลุอรหันต์ พระมูลคันธกุฏิ กุฏิหลังแรกที่พระพุทธองค์จำพรรษาเป็นพรรษาแรก เสาพระเจ้าอโศก ที่มีจารึก “อักษรพราหมี”

เข้าชม พิพิธภัณฑ์สารนาถ (หากไม่ตรงวันปิดทำการ) ซึ่งเก็บโบราณวัตถุล้ำค่า โดยเฉพาะสิงห์หัวเสา สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช พระพุทธรูป ปางแสดงปฐมเทศนาที่งดงาม มีอายุกว่า 1,500 ปี ธรรมราชิกสถูป ที่ซึ่งพระอัญญาโฏณฑัญญะ บรรลุพระอรหันต์ จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ที่พัก

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน  ณ ห้องอาหารของโรงแรม

บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคยา(ระยะทาง 260 กิโลเมตร เดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง)

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ  ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ที่พักMarasa Sarovar Premiere 5* หรือระดับเดียวกัน ณ เมืองคยา

 Day 7 เมืองคยา - สนามบินคยา - สนามบินสุวรรณภูมิ

 7 NOV 25

เช้า รับประทานอาหารเช้า  ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

10.30 น. ถึงเวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ สนามบินคยา เตรียมตัวเดินทางกลับกรุงเทพฯ

13.40 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 328

18.15 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

หน้าแรก | จองโรงแรม | ตั๋วเครื่องบินในประเทศ | ตั๋วเครื่องบินต่างประเทศ | ทัวร์ไทย | ทัวร์ไฟไหม้ | เรือสำราญ | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อเรา | นโยบายความเป็นส่วนตัว
Copyright © 2003 eTravelWay.com All rights reserved โดย บริษัททัวร์ วีอาร์ เอนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด
ใบอนุญาตนำเที่ยวในและต่างประเทศเลขที่ 11/11450
facebook
tel
TOP