กรีซ-ไซปรัส 11 วัน 8 คืน

เอเธนส์ » อะโครโปลิส » ซานโตรินี » เกาะภูเขาไฟเนคาเมนี » เอีย

ฟิร่า » อิเมอร์โรวิกลี » ชิมไวน์!! » มิโคนอส » เกาะเดลอส

ไซปรัส » นิโคเซีย » ลีมาซอล » แพฟอส » ลาร์นากา

✅ รวมตั๋วเครื่องบินกรีซ-ไซปรัส-กรีซ ✅ รวมทิปทั้งหมดแล้ว

โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ (TK)

20.00 น. หัวหน้าทัวร์รอต้อนรับที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 Row N ประตูทางเข้าที่ 7 เคาน์เตอร์สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ (TK)

23.05 น. เดินทางสู่ อิสตันบูล ประเทศตุรเคีย โดยเที่ยวบิน TK 69

05.15 น. ถึง สนามบินอิสตันบูล เพื่อเปลี่ยนเที่ยวบิน

07.30 น. เดินทางสู่ กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ โดยเที่ยวบิน TK 1843

09.00 น. ถึง สนามบินนานาชาติเอเลฟเทริออส เวนิเซลอส กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ (ตามเวลาท้องถิ่นซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 5 ชม.)

= ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร =

ท่องเที่ยวใน กรุงเอเธนส์ (Athens) เมืองหลวงของกรีซ (Greece) หรือในชื่อเต็มว่า สาธารณรัฐเฮลเลนิก (Hellenic Republic) โดยใช้ชื่อนี้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1829 ซึ่งเป็นปีที่ได้รับเอกราชจากจักรวรรดิออตโตมัน มีที่มาจากชื่อของเทพธิดาเฮเลน หรือจากเทพปกรณัม เฮเลนแห่งกรุงทรอย ที่เรารู้จักดี

• เข้าชม อะโครโปลิส (Acropolis) โบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาสูง เชื่อกันว่าบนเนินเขาแห่งนี้เป็นที่สถิตของเทพีเอเธน่า เทพีแห่งปัญญา ซึ่งต่อมาองค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ประกาศให้อะโครโปลิสเป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรม ในปี ค.ศ. 1987
• เข้าชม วิหารพาร์เธนอน (Parthenon) วิหารศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่เทพีเอเธน่า (The Goddess Athena) เป็นวิหารที่สร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลังรายล้อมด้วยเสาหินแบบดอริก (Doric) ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของโลกที่สร้างขึ้นในโลกยุคคลาสสิกหรือยุคทองของกรีซ ช่วงประมาณ 450-300 ปีก่อนคริสตกาล และทั่วโลกต่างยอมรับกันว่าเป็นวิหารแบบดอริกที่ใหญ่และสมบูรณ์แบบที่สุดในโลกศิลปะของกรีซ

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

• เที่ยวชมบรรยากาศของกรุงเอเธนส์ เช่น สนามกีฬาโอลิมปิก (Olympic Stadium) ซึ่งได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่และใช้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1896, จัตุรัสซินตั๊กม่า (Syntagma Square) ที่ตั้งของรัฐสภาแห่งชาติและอนุสรณ์ทหารนิรนาม
• เดินเล่นย่านเก่าแก่บริเวณเชิงเขาอะโครโปลิส ที่ชื่อว่า พลากา (Plaka) แหล่งรวมนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ถนนหนทางตรอกซอกซอยเต็มไปด้วย ร้านค้า บาร์ ภัตตาคาร คึกคักพลุกพล่านไปด้วยผู้คนทั้งกลางวันและยามค่ำคืน สุดเขตย่านพลากาคือย่านเมืองใหม่ที่เต็มไปด้วยร้านค้าแฟชั่นหรูระดับโลกและ ถนนคนเดินที่เป็นระเบียบสวยงาม

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

ที่พัก Novotel หรือ Brown Kubic Hotel 4* หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหาร แบบ Breakfast Box

เดินทางสู่ ท่าเรือพิราอุส (Piraeus) เพื่อขึ้นเรือเฟอร์รี่ สู่ เกาะซานโตรินี (Santorini) เกาะที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อ 1,450 ปีก่อนคริสตกาล เป็นเกาะในฝันที่ผู้คนทั่วโลกต่างใฝ่ฝันจะได้มาเยือนสักครั้ง ซานโตรินีได้รับการยกย่องให้เป็นราชินีแห่งหมู่เกาะไซคลาดิส (Cyclades Islands) ตั้งอยู่บริเวณตอนใต้ของทะเลอีเจียน (Aegean Sea) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรีซแผ่นดินใหญ่

ถึง ท่าเรือธีรา (Thira) เกาะซานโตรินี

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

บ่าย ท่องเที่ยวบน เกาะซานโตรินี

เดินทางสู่ หมู่บ้านเอีย (Oia Village) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือบนเกาะซานโตรินี ขึ้นชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดของเกาะแห่งนี้ มีความสวยงามตามแบบฉบับของจินตนาการเมื่อนึกถึงเกาะในประเทศกรีซ บ้านสีขาวและยอดโบสถ์ทรงโดมที่รายล้อมด้วยสีฟ้าสดจากทุกทิศไม่ว่าจะเป็นทะเล ท้องฟ้า หรือแม้แต่กรอบประตูหน้าต่างสีสันสดใส รวมถึงโบสถ์สีขาวสะอาดตาลดหลั่นไล่ระดับตามหน้าผาสูงชัน เป็นศูนย์กลางการค้าที่เก่าแก่ มีคฤหาสน์หรูหราเป็นหลักฐานถึงความมั่งคั่งของชาวเรือที่อาศัยอยู่ที่นี่

เดินทางสู่ เมืองฟิรา (Fira) หรือ ธีรา (Thira) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเกาะซานโตรินี แหล่งรวมนักท่องเที่ยว มีทั้งที่พัก ร้านอาหาร ผับ บาร์ ร้านขายของฝากที่มีเอกลักษณ์มากมาย เป็นเมืองที่เรียกได้ว่าไม่เคยหลับไหล เดินเล่นชมเมืองและร้านค้าของที่ระลึกบนถนนที่ทอดยาวริมหน้าผา พร้อมชมทิวทัศน์งดงามของท้องฟ้า ทะเลสีคราม บ้านเรือนสีขาวที่ตัดกันอย่างลงตัว

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

ที่พัก Maistros Village Hotel 4* หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก

ล่องเรือสู่ เกาะภูเขาไฟเนคาเมนี (Nea Kameni) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเกาะซานโตรินี เกาะแห่งนี้เคยเป็นผืนแผ่นดินเดียวกันเกาะซานโตรินี แต่เพราะการระเบิดของภูเขาไฟทำให้แผ่นดินค่อยๆ แยกออกจากกันจนกลายเป็น 2 เกาะอย่างในปัจจุบัน ภูเขาไฟที่นี่ยังคงมีความร้อนอยู่จึงทำให้เกิดจุดแช่น้ำร้อนที่มีแร่ธาตุที่ดีต่อร่างกาย (หากต้องการแช่น้ำร้อน ... กรุณาเตรียมเสื้อผ้าไปด้วย)

เดินทางกลับเกาะซานโตรินี

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

บ่าย เที่ยวชมบรรยากาศชายหาดของ เกาะซานโตรินี เช่น หาดทรายแดง(Red Beach) หาดทรายสีแดงแปลกตาที่เกิดจากลาวาภูเขาไฟผสมกับแร่เหล็กในบริเวณนั้น ทำให้หาดมีสีแปลกตากว่าที่อื่น นักท่องเที่ยวหรือครอบครัวมักจะมาพักผ่อนนอนอาบแดดที่หาดแห่งนี้ หรือ หาดคามารี (Kamari Beach) หาดทรายสีดำที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ เม็ดทรายเกิดจากหินลาวาที่แตกออกเป็นทรายขนาดเล็กสีดำตัดกับสีฟ้าน้ำทะเล ทำให้ชายหาดแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาด

• ชิมไวน์ ของซานโตรินีที่ โรงผลิตไวน์ซานโต (Santo Winery) ที่เพาะปลูกองุ่นด้วยดินภูเขาไฟอันอุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุ ทำให้ไวน์ที่เกาะนี้มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

เดินทางสู่ หมู่บ้านอิเมโรวิกลี (Imerovigli Village) คำที่ในภาษาท้องถิ่นแปลว่าจุดชมวิว เนื่องจากที่ตั้งของหมู่บ้านอยู่ในตำแหน่งบนหน้าผาสูงมองเห็นภูมิประเทศทางทะเลได้ไกล ในอดีตชาวบ้านจึงใช้เป็นทำเลในการสังเกตเรือของโจรสลัด อาคารบ้านเรือนในบริเวณนี้จะเป็นสไตล์ไซคลาดิกคือใช้โทนสีฟ้า-ขาว เข้ากับท้องฟ้าและน้ำทะเล

• แวะถ่ายรูป โบสถ์อนาสตาซิส (Church of Anatasis) โบสถ์สีขาวริมหน้าผาที่งดงาม

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

ที่พัก Maistros Village Hotel 4* หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก

เดินทางสู่ท่าเรือเพื่อขึ้นเรือเฟอร์รี่ สู่ เกาะมิโคนอส (Mykonos) เกาะสวรรค์แห่งนักท่องราตรี เป็นหนึ่งในหมู่เกาะไซคลาดิสที่สวยงาม

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

บ่าย เที่ยวชมบรรยากาศของ เกาะมิโคนอส เช่น ชายหาดพาราไดซ์ (Paradise Beach) หรือ ชายหาดซูเปอร์พาราไดซ์ (Super Paradise Beach)

• ชม มิโคนอส ทาวน์ (Mykonos Town) หรืออีกชื่อหนึ่งว่า โฮรา (Chora) ที่มีความงดงามประกอบด้วยบ้านเรือนสีขาวทุกหลังตัดกับท้องฟ้าสีฟ้า ระเบียงดอกไม้ที่รายรอบด้วยสีสัน เป็นทิวทัศน์ที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ที่ไม่ควรพลาด
• ชม Small Venice”(Mikri Venetia) จุดที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดริมทะเลอีเจียนที่มีบรรยากาศคล้ายคลึงกับเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี พร้อมภาพกังหันลมกลางทะเลที่เรียกว่า Kato Milli ที่มีอายุกว่า 400 ปี ตั้งเรียงรายอยู่ 5 หลังริมชายฝั่ง พร้อมโบสถ์สีขาวหลังคาสีแดง ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่เลยก็ว่าได้
• เดินเล่นสบายๆ ย่านท่าเรือเก่า (Old Port) ที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาตลอด 24 ชั่วโมง มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ โรงแรมมากมายตามตรอกซอกซอย หลังพระอาทิตย์ตกบรรยากาศก็เปลี่ยนเป็นบาร์ต่างๆ ที่คึกคักไม่แพ้กัน

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

ที่พัก Mr. & Mrs. White หรือ Petasos Beach Hotel 4* หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก

เดินทางสู่ เกาะเดลอส (Delos) เกาะแห่งตำนานเทพเจ้ากรีก ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเกาะมิโคนอส ปัจจุบันเป็นเกาะที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ มีความเชื่อมาอย่างยาวนานกว่า 2,000 ปีว่าเป็นสถานที่กำเนิดเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ (เทพเจ้าอพอลโล) และเทพีแห่งดวงจันทร์ (เทพีไดอานา) เกาะแห่งนี้เคยมียุคที่รุ่งเรืองทางการค้าในช่วง 166 – 169 ปีก่อนคริสต์ศักราช มีประชากรอาศัยอยู่ มีการเติบโตทางด้านศิลปะและสถาปัตยกรรมต่างๆ ต่อมาเมื่อผ่านยุคที่รุ่งเรือง ผู้คนก็อพยพทิ้งร้างไป จนอีกหลายร้อยปีผ่านมาเกาะถูกค้นพบโดยนักโบราณคดีที่ขุดพบซากปรักหักพังที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันมากมาย จนในปี ค.ศ. 1990 UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนให้เกาะเดลอสเป็นมรดกโลก

เดินทางกลับเกาะมิโคนอส

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

บ่าย เดินทางสู่ สนามบินนานาชาติเกาะมิโคนอส (JMK)

17.45 น. เดินทางสู่ สนามบินกรุงเอเธนส์ โดยเที่ยวบิน A3 379

18.25 น. ถึง เอเธนส์ เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง

ค่ำ อิสระรับประทานอาหารที่สนามบิน (Cash Back EUR 15)

21.20 น. เดินทางสู่ สนามบินนานาชาติลาร์นากา (LCA) โดยเที่ยวบิน A3 914

23.00 น. ถึง เมืองลาร์นากา (Larnaca) เกาะไซปรัส (Cyprus) เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสามในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน รองจากเกาะซิซิลี (Sicily) และเกาะซาร์ดิเนีย (Sardinia) ของอิตาลี

= ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร =

ที่พัก Leonardo Hotel 4* หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก

เดินทางสู่ เมืองนิโคเซีย (Nicosia) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐไซปรัส มีประวัติยาวนานกว่า 1,000 ปี มีความเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมากมายที่ยังคงบอกเล่าเรื่องราวมาจนถึงปัจจุบัน จากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางเชื้อชาติในช่วงปี ค.ศ. 1963-1964 ทำให้นิโคเชียถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนเช่นเดียวกับเกาะไซปรัส โดยทางใต้ของเกาะเป็นดินแดนของชาวไซปรัสเชื้อสายกรีก ทางเหนือเป็นดินแดนของชาวไซปรัสเซื้อสายตุรเคีย ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลไซปรัสเหนือ

• เข้าชม พิพิธภัณฑ์แห่งชาติไซปรัส(The Cyprus Museum) ที่รวบรวมโบราณวัตถุต่างๆ ตั้งแต่ยุคหินใหม่ถึงยุคโรมันที่ถูกค้นพบบนเกาะไซปรัส
• เที่ยวชมบรรยากาศของเมืองนิโคเซีย เช่น กำแพงเมืองนิโคเซีย (The Walls of Nicosia) หรือที่รู้จักในชื่อ กำแพงเวเนเชียน (Venetian Walls) ซึ่งถือว่าเป็นกำแพงเมืองที่มีความเก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก สร้างครั้งแรกในสมัยศตวรรษที่ 14 เพื่อล้อมรอบเมืองเก่า ป้องกันการโจมตีของอาณาจักรออตโตมัน ต่อมามีการสร้างใหม่อีกครั้งในศตวรรษที่ 16 โดยสาธารณรัฐเวนิส (The Republic of Venice) กำแพงส่วนใหญ่ยังคงสภาพสมบูรณ์จนถึงปัจจุบัน, ประตูฟามากุสตา (Famagusta Gate) ประตูทางเข้าเมืองเก่าที่ใหญ่ที่สุดในสามประตูเมืองถือเป็นทางเข้าหลักของเมือง ออกแบบโดยวิศวกรผู้มีชื่อเสียงนาม จิวลิโอ ซาวอร์คนาโน (Giulio Savorgnano) ชาวเวนิสในปี ค.ศ. 1567

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

เดินทางสู่ เมืองลีมาซอล (Limassol) เมืองบนชายฝั่งตอนใต้ของไซปรัส ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากนิโคเซีย

• เข้าชม แหล่งโบราณคดีคูริออน (Kourion archaeological Site) อีกหนึ่งเมืองโบราณที่มีชื่อเสียงของไซปรัส ชม โรงละครกรีก-โรมัน (Greco Roman Amphitheatre) โรงละครทรงครึ่งวงกลมที่หันหน้าสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสต์ศักราช สามารถจุผู้ชมได้กว่า 3,500 คน และ บ้านยูสโตลิออส (Eustolios House) วิลล่าส่วนตัวสไตล์โรมันก่อนที่จะถูกปรับเปลี่ยนเป็นอาคารสาธารณะที่เป็นทั้งห้องอาบน้ำ ห้องครัวและสถานที่อาศัยในสมัยก่อน ชมความงามของพื้นโมเสกที่ประดับตกแต่งอย่างสวยงามและอนุรักษ์ไว้อย่างดี

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

ที่พัก Ajax Hotel 4* หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก

ท่องเที่ยวในเมืองลีมาซอล

• เข้าชม ปราสาทลีมาซอล เป็นอีกหนึ่งที่ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 ในศิลปะแบบไบแซนไทน์ ภายในปราสาทจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ Limassol Medieval มีคอลเลกชันชุดเกราะอาวุธต่างๆ ที่น่าสนใจมากมาย ปราสาทแห่งนี้เคยเป็นสถานที่ประกอบพิธีอภิเษกสมรสระหว่างกษัตริย์ Richard แห่งราชวงศ์อังกฤษ กับเจ้าหญิง Berengaria แห่งเมือง Navarre ในปี 1191 ซึ่งการอภิเษกครั้งนี้ทำให้เจ้าหญิง Berengaria ได้รับตำแหน่งเป็นราชินีแห่งราชวงศ์อังกฤษอีกด้วย

เดินทางสู่ เมืองแพฟอส หรือ ปาฟอส (Paphos) เมืองริมทะเลทางตะวันตกเฉียงใต้ของไซปรัส เชื่อกันว่าเป็นสถานที่ที่เทพีอโฟรไดท์ (Aphrodite) หรือที่เรารู้จักในชื่อของเทพีวีนัส (Venus) เทพีแห่งความรักถือกำเนิดขึ้นที่นี่ เมืองนี้ยังเป็นเมืองโบราณที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่ UNESCO ให้การยอมรับเป็นเมืองมรดกโลกอีกด้วย

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

บ่าย ท่องเที่ยวในเมืองแพฟอส

• ชม หินอโฟรไดท์ (Aphrodite’s Rock) หรือ Petra tou Romiou ก้อนหินขนาดใหญ่ที่เป็นจุดกำเนิดของเทพีอโฟรไดท์ (Aphrodite) พร้อมชมวิวทะเลที่สวยงามของชายหาดอโฟรไดท์ (Aphrodite’s beach)
• เข้าชม สุสานกษัตริย์ (Tombs of the Kings) สุสานโบราณขนาดใหญ่ที่ต่อมาจากหลักฐานการขุดค้นของนักโบราณคดีในปี ค.ศ. 1870 ปรากฏว่าโครงกระดูกที่ขุดพบเป็นของเหล่าขุนนางและชนชั้นสูงที่มีอายุมากกว่า 2,000 ปี ไม่มีหลุมใดเป็นของกษัตริย์เลย แต่ยังคงเป็นสุสานที่ทรงคุณค่าและโดดเด่นทางสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลมาจากชาวอียิปต์ มีการแกะสลักหิน มีโครงสร้างเสาหินแบบดอริกและภาพจิตรกรรมฝาผนัง ได้รับการยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลก ในปี ค.ศ. 1980
• เข้าชม อุทยานโบราณคดี (Archaeological Park) หนึ่งในแหล่งโบราณคดีที่สำคัญที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1980 ชมงานโมเสกที่ถือว่ามีความสวยงามที่สุดอีกหนึ่งแห่งของโลก

เดินทางกลับเมืองลีมาซอล

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

ที่พัก Ajak 4* หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก

เดินทางสู่ เมืองลาร์นากา เมืองโบราณริมทะเลที่เรียงรายไปด้วยต้นปาล์มและร้านอาหาร เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญทางต่างๆ มากมาย

• ชม โบสถ์เซนต์ลาซารัส (Church of Saint Lazarus) โบสถ์กรีกออร์โธดอกซ์ สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิไบแซนไทน์ลีโอที่ 6 ในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 เพื่อเป็นเกียรติแก่นักบุญลาซารัส ผู้นำศาสนาคริสต์เข้ามาเผยแพร่ที่นี่
• ชมย่านเมืองเก่า (Old Town) ย่านที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่มายาวนาน อาคารบ้านเรือนสไตล์ยุโรปตั้งแต่ยุคกลาง ศาสนสถานที่มีทั้งคริสต์และอิสลาม
• ชม ท่อส่งน้ำคามาเรส (Kamares Aqueduct) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1747-1750 โดยคำสั่งของ Ebu Bekir Pasha ผู้ปกครองออตโตมันแห่งเมืองลาร์นากาในสมัยนั้น สถาปัตยกรรมการก่อสร้างจึงเป็นสไตล์ออตโตมันที่มีซุ้มโค้ง ซึ่งปัจจุบันหลงเหลือให้เห็นเพียง 20 ซุ้มจาก 75 ซุ้ม ท่อส่งน้ำนี้ถูกใช้เรื่อยมาจนถึงปี ค.ศ. 1939 จึงถูกทิ้งร้าง

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

เดินทางสู่ สนามบินนานาชาติลาร์นากา

15.45 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเอเธนส์ โดยเที่ยวบิน A3 905

17.30 น. ถึง สนามบินนานาชาติเอเลฟเทริออส เวนิเซลอส กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

ที่พัก Novotel หรือ Brown Kubic 4* หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก

• ช้อปปิ้งที่ McArthurGlen Designer Outlet Athens เลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมหรูในราคาพิเศษมากกว่า 100 ร้านค้าให้เลือกซื้อ เช่น Polo Ralph Lauren, Adidas, Tommy Hilfiger, Benetton, BOSS, Nike, Lacoste, Guess ฯลฯ

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

เดินทางสู่ สนามบินนานาชาติกรุงเอเธนส์

ค่ำ อิสระรับประทานอาหารตามอัธยาศัยภายในสนามบิน

21.50 น. ออกเดินทางสู่ อิสตันบูล โดยเที่ยวบิน TK 1846

23.25 น. ถึงสนามบินอิสตันบูล เพื่อเปลี่ยนเที่ยวบิน

01.35 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบิน TK 68

15.25 น. ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ