เที่ยวตุรเคีย ALL OF TüRKIYE 9 วัน 6 คืน

โดยสายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ (EK) น้ำหนักกระเป๋าโหลดใต้เครื่อง 30 กก.

โรงแรมที่พักระดับ 4-5 ดาว - พักโรงแรมถ้ำ 1 คืน

เที่ยวเมืองโบราณเฮียราโพลิส ปามุคคาเล่ ปราสาทปุยฝ้าย

คัปปาโดเกีย อังการา ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส เมืองอิสตันบูล

23.00 น. ” คณะเดินทางพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 9 แถว T สายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ (EK) เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก

02.50 น. ñออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK377 (ä บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

06.00 น. ëเดินทางถึง เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง

10.45 น. ñ ออกเดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK123 (ä บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

14.25 น. ë เดินทางถึง สนามบินเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเดินทางสู่ เมืองชานัคคาเล (Canakkale) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง เมืองที่ตั้งอยู่บนทะเลมาร์มาราและทะเลอีเจียนบนชายฝั่งทางตอนใต้ของดาร์ดาแนลส์ เมืองแห่งนี้เคยเป็นชุมทางการค้า ศูนย์กลางการเดินเรือเชื่อมต่อเอเชียกับยุโรป

ค่ำ ä บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก

H Iris Hotel หรือเทียบเท่า

เช้า ä บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านถ่ายรูป ม้าไม้แห่งเมืองทรอย (Trojan Horse) เป็นม้าไม้ที่เป็นสัญลักษณ์สงครามที่สำคัญในตำนานของกรีก เป็นสงครามระหว่างกองทัพของชาวกรีกและกรุงทรอย โดยกรีกได้สร้างม้าไม้โทจันขึ้นเพื่อเป็นแผนการหลอกชาวทรอย เพื่อลอบเข้าไปยึดเมือง นำท่านเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล (Pamukkale) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง เป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสุดไฮไลท์คือปราสาทปุยฝ้ายสุดวิจิตร บ่อน้ำร้อนศักดิ์สิทธิ์แห่งตุรกี ทั้งงดงามราวกับเป็นน้ำพุร้อนจากสวรรค์ และมีสรรพคุณในการบำบัดโรคจนกลายเป็นสปาธรรมชาติมานานกว่าพันปี

เที่ยง ä บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร นำท่านชม เมืองโบราณเฮียราโพลิสเป็นเมืองโบราณในเขตปามุคคาเล่ ประกอบด้วยพื้นที่พิพิธภัณฑ์โบราณคดีที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ที่นี่มีไฮไลต์อยู่ที่สระน้ำแร่โบราณที่เชื่อกันว่าถูกใช้งานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 2 ซึ่งมีน้ำแร่ธรรมชาติผุดขึ้นมาชั่วนาตาปีนับแต่อดีตคราวสร้างเมืองจนถึงปัจจุบัน และเป็นน้ำแร่ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของสรรพคุณการรักษาโรค

นำท่านเดินทางสู่ ปราสาทปุยฝ้าย เป็นน้ำพุเกลือแร่ร้อนที่มีลักษณะเป็นหน้าผาที่กว้างใหญ่ ด้านข้างของอ่างน้ำจะเป็นรูปร่างคล้ายหอยแครงและน้ำตกแช่แข็ง มองดูเหมือนสร้างจากหิมะ เมฆ หรือปุยฝ้าย นำ้แร่ที่ไหลลงแต่ละชั้นจะกลายเป็นหินปูนย้อยห้อยเป็นรูปต่างๆ อย่างมหัศจรรย์ ในอดีตชาวโรมันเชื่อว่าน้ำที่นี่สามารถรักษาโรคได้

ค่ำ ä บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก

H Tripolis Hotel หรือเทียบเท่า

เช้า ä บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองคอนย่า (Konya) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง ที่นี่เคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจุก ซึ่งเป็นอาณาจักรแห่งแรกของพวกเติร์กบนแผ่นดินตุรกี ทำให้สถาปัตยกรรมแบบเซลจุกดั้งเดิมมีให้เห็นอย่างโดดเด่นที่นี่ และยังเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางของนิกายเมฟเลวี ที่ถือกำเนิดมาจากการก่อตั้งของเมฟลานา เยลาเลดิน ผู้ซึ่งเป็นกวีชาวอัฟกานิสถานที่ทำให้ชาวคริสต์จำนวนไม่น้อยหันมานับถือศาสนาอิสลามเขาจึงเปรียบเหมือนผู้วิเศษในสายตาเหล่าสาวก

เที่ยง ä บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านชม พิพิธภัณฑ์เมฟลานา (Mevlana Museum) ส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์เป็นสุสานของเมฟานา เจลาเลดดิน ภายนอกเป็นหอทรงกระบอกปลายแหลมสีเขียวสดใส ภายในประดับประดาฝาผนังแบบมุสลิม โดยใช้สีมากมายตระการตา ซึ่งหาชมได้ยาก และยังเป็นสุสานสำหรับผู้ติดตาม สานุศิษย์ บิดา และบุตรของเมฟลานาด้วย เมฟลานา เจลาเลดดิน รูมี (Mevlana Celaleddin Rumi) เกิดที่ประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อปี ค.ศ. 1207 บิดาเป็นนักปราชญ์ ท่านเดินทางไปทั่ว สุดท้ายจึงมาตั้งรกรากอยู่ตุรกี เมฟลานาได้เข้ารับตำแหน่งอาจารย์ทางปรัชญาประจำราชสำนักแห่งกษัตริย์อาเลดดิน เคย์โคบาท และได้รู้จักกับนักบวชใน ศาสนาอิสลามคือ เชมซี เทบริซลิ (Schemsi Tebrizli) ทั้งสองร่วมกันคิดวิธีทำสมาธิโดยเดินหมุนเป็นวงกลม เมฟลานา ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อในวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ.1271 และทุกปีในวันนี้จะมีการเฉลิมฉลองที่สุสานเมฟลานา แนวคิดของเมฟลานานั้น เชื่อมั่นในความอดทน ความรัก การเคารพในเสรีภาพของผู้อื่นและสนับสนุนครอบครัวผัวเดียวเมียเดียว

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadogia) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง เป็นบริเวณที่อยู่ระหว่างทะเลดำกับภูเขาเทารุสเป็นพื้นที่พิเศษที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ ทำให้ลาวาที่พ่นออกมาและเถ้าถ่านจำนวนมหาศาล กระจายไปทั่วบริเวณทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา จากนั้นกระแสน้ำ ลม ฝน แดด และหิมะ ได้ร่วมด้วยช่วยกันกัดเซาะกร่อนกินแผ่นดินภูเขาไฟไปเรื่อยๆ นับแสนนับล้านปี จนเกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวง ดูประหนึ่งดินแดนในเทพนิยาย จนชนพื้นเมืองเรียกขานกันว่า “ปล่องไฟนางฟ้า”

ค่ำ ä บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก

H Kalsedon Cave Hotel หรือเทียบเท่า (โรงแรมที่พักแบบถ้ำ 1 คืน)

เช้า ä บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ นครใต้ดิน (Cardak Underground City) ที่เกิดจากการขุดเจาะพื้นดินลึกลงไป เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย เป็นที่หลบภัยจากข้าศึกศัตรู เมืองใต้ดินแห่งนี้มีครบเครื่องทุกอย่างทั้งห้องโถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร โบสถ์ ทางหนีฉุกเฉิน ฯลฯ ซึ่งแม้จะเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่ขุดลึกลงไปใต้ดินหลายชั้น แต่ทว่าอากาศเบื้องล่างนั้นกลับรู้สึกสบาย นำท่านช้อปปิ้งที่ โรงงานทอพรม (Carpet) โรงงานเซรามิค (Pottery) และร้านจิวเวอร์รี่ (Jewellery) อิสระกับการเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านชม หุบเขาแห่งรัก (Love Valley) เป็นกลุ่มแท่งหินทรงยาวแนวตั้ง ที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟและการกัดเซาะเป็นเวลาหลายพันปี เป็นผลให้เกิดหุบเขาลึกและยอดเขาที่แหลมคมในดิน

เที่ยง ä บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร นำท่านชม หุบเขานกพิราบ (Pigeon Valley) หน้าผาที่ชาวเมืองโบราณได้ขุดเจาะเป็นรู เพื่อให้นกพิราบเข้าไปทำรังอาศัยอยู่อย่างมากมาย ณ จุดนี้ ท่านจะสามารถมองเห็นปราสาทอุชิซาร์ ได้ในระยะไกล ที่นี่จะมีนกพิราบมากมายที่ชาวบ้านเลี้ยงนกพิราบเพื่อนำอึมาทำเป็นปุ๋ยบำรุงต้นไม้ นำท่านชม ปราสาทหินยูชิซาร์ (Uchisar Castle) เป็นหมู่บ้านที่มีภูเขาขนาดใหญ่ซึ่งมีรูพรุนไปจนทั่ว ในสมัยก่อนมีไว้เป็นป้อมปราการเอาไว้สอดส่องข้าศึกลักษณะคล้ายจอมปลวกหรือรวงผึ้งขนาดใหญ่ รวมๆ มีหินรูปกรวยคว่ำ รูปกระโจม กระจัดกระจายอยู่รอบๆ ชมวิวอันสวยงามของคัปปาโดเกีย และยังมองเห็นลักษณะของธรรมชาติที่เป็นเหมือนแคนยอน คลื่นหิน และหมู่หินรูปทรงแปลกตา

นำท่านชม พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Goreme Valley) เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านอวานอส (Avanos Village) เป็นหมู่บ้านเก่าแก่เล็กๆ ตัวบ้านมีลักษณะสถาปัตยกรรมออตโตมันดั้งเดิม ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแดง แม่น้ำที่ยาวที่สุดในตุรกี มีชื่อเสียงในเรื่องของเครื่องปั้นดินเผาและเซรามิค ชาวบ้านเลี้ยงชีพจากการทำเครื่องปั้นดินเผา ซึ่งนำดินแม่น้ำแดงมาปั้นทำเครื่องปั้นดินเผาไว้ใช้สอยและทำเป็นอาชีพ 

ค่ำ ä บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก

H Signature Garden Avanos Hotel หรือเทียบเท่า

เช้า ä บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านสู่ ทะเลสาบเกลือ (LAKE TUZ) เป็นทะเลสาบที่เรียกได้ว่ามีความเค็มที่สุดในโลก แถมน้ำทะเลที่เป็นสีแดง ก็ดูแปลกตา เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศตุรกี ซึ่งสาเหตุที่มีน้ำทะเลเป็นสีแดงก็เพราะว่าแท้จริงแล้วมันคือสีของสาหร่าย ‘Dunaliellam salina’ หากเดินทางไปเที่ยวทะเลสาบเกลือในหน้าร้อน น้ำทะเลสาบจะเหือดแห้งเหลือเพียงแต่กองเกลือที่ตกผลึกเป็นแผ่นหนาหลายสิบเซ็นติเมตร มองเห็นเป็นพื้นสีขาวสุดสายตา และที่ทะเลสาบเกลือแห่งนี้ยังเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำหนัง Star War อีกด้วย

นำท่านเดินทางสู่ เมืองอังการา (Ankara) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง เมืองหลวงของประเทศตุรกี ตั้งอยู่ฝั่งทวีปเอเชีย ชาวตุรกีจะเรียกดินแดนฝั่งเอเชียว่าอนาโตเลีย อังการายังเป็นเมืองใหญ่อันดับสอง รองจากอิสตันบูล

เที่ยง ä บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร

นำท่านชม สุสานอตาเติร์ก (Ataturk Mausoleum) อนุสรณ์สถาน หรือ สุสานขนาดใหญ่ของ บุคคลสำคัญผู้ได้รับการขนานนามว่าเป็นบิดาแห่งชาวเติร์กของประเทศตุรเคีย ทางเข้าหลักของอาคาร คือ ถนนไลอ้อน เรียงรายไปด้วยรูปปั้นสิงโต 24 ตัว แสดงถึงสัญลักษณ์แห่งอำนาจของชาวฮิตไทต์

นำท่านเดินทางสู่ เมืองซาฟแลนโบลู (Safranbolu) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง เมืองดอกไม้สีแดง ถูกบันทึกอยู่ในรายชื่อมรดกโลกของยูเนสโก มองไปจะเป็นเมืองที่มีภูเขาสวยงาม เส้นทางที่ปูด้วยหินก้อนกรวดทอดยาวผ่านเขา สองข้างทางเป็นบ้านไม้โบราณสไตล์ออสมันตัส หลังคาปูด้วยกระเบื้องทรงกระบอก

ค่ำ ä บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก

H Kadioglu Sehzade Konaklari Hotel หรือเทียบเท่า

เช้า ä บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล (Istanbul) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายศตวรรษตั้งแต่ก่อนคริสตกาล โดยตั้งอยู่บริเวณ ช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งแยกระหว่างทวีปยุโรปและเอเชีย ทำให้เมืองอิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ทั้ง 2 ทวีป

นำท่าน ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise Tour) เป็นช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำกับทะเลลมาร์มาร่า มีความยาวประมาณ 30 กิโลเมตร เป็นเส้นทางการเดินเรือที่สำคัญและยังแบ่งทวีปยุโรปและเอเชียออกจากกันอีกด้วย นำท่านแวะ Candy Shop หรือร้านเตอร์กิชดีไลท์ เป็นขนมหวานขึ้นชื่อของประเทศตุรเคีย

อิสระช้อปปิ้ง ตลาดเครื่องเทศ (Spice Market) เรียกกันว่าตลาดอียิปต์ เป็นตลาดพื้นเมืองของตุรคีย ภายในตลาดยังมีสินค้ามากมายให้ได้เลือกซื้อ อาทิ ร้านขนมหวานของ ตุรเคีย, อาหาร, เครื่องเทศ, เครื่องเพชรพลอย, ของที่ระลึก, ผลไม้แห้งและเครื่องประดับต่างๆ

เที่ยง ä บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร อิสระช้อปปิ้งที่ จัตุรัสทักซิมสแควร์ (TAKSIM SQUARE) เป็นสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงและนับว่าเป็นหัวใจ ของ เมืองอิสตันบูลเลยทีเดียว ซึ่ง ไฮไลท์ของ TAKSIM SQUARE อีกอย่างหนึ่ง ก็คือ รถรางสีแดงสด ที่วิ่งจาก จัตุรัส ทักซิม ไปตามถนนใกล้กับ สถานีทูเนล ซึ่งเป็นสถานีรถไฟใต้ดิน ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเป็นอันดับสอง นำท่านถ่ายรูป หอคอยกาลาตา (Galata Tower) เป็นหอคอยหินยุคกลาง ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1348 เป็นหอคอยหินสไตล์โรมัน ทรงกระบอกขนาดเก้าชั้น มีความสูง 66.90 เมตร

ค่ำ ä บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก

H Delta by Marriott Courtyard Istanbul West Hotel หรือเทียบเท่า

เช้า ä บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านถ่ายรูปกับ พระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace) อดีตเคยเป็นที่ประทับของสุลต่านแห่งราชวงศ์ออตโตมัน ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติที่ใช้เก็บ มหาสมบัติอันล้ำค่า (ปิดเข้าชมทุกวันอังคาร) และยังเป็นส่วนหนึ่งของ พื้นที่ประวัติศาสตร์ของอิสตันบูล ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ขององค์การยูเนสโก

นำท่านถ่ายรูป สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) เดิมเคยเป็นโบสถ์ของคริสต์ ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นสุเหร่า ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ (ปิดเข้าชมทุกวันจันทร์) วิหารแห่งนี้จึงได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม และทรงคุณค่าทางศิลปะที่ยิ่งใหญ่

นำท่านถ่ายรูปด้านนอก สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) เป็นมัสยิดที่โอ่อ่า สง่างาม เกินคำบรรยาย ด้วยการสร้างหออะซานจำนวน 6 หอ ถือเป็นอันดับที่ 3 มีแบบสถาปัตยกรรมที่งดงาม แปลกตาที่สุดในโลก (ภายในอาจมีการปรับปรุงตลอด ทำให้บางช่วงไม่สามารถชมด้านในได้) *กรุณาแต่งกายสุภาพ และสุภาพสตรีให้เตรียมผ้าคลุมไว้สำหรับรับใช้คลุมศรีษะระหว่างเที่ยวชม สุเหร่าสีน้ำเงิน*

นำท่านถ่ายรูปด้านนอก ฮิปโปโดม (Hippodrome) ตั้งอยู่ที่จัตุรัสสุลต่านอาเหม็ดซึ่งคั่นระหว่างมหาวิหารโซเฟีย Hagia Sophia ใช้เป็นสนามแข่งม้า และแข่งรถศึก (Chariot Racing)

เที่ยง ä บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร นำท่านเดินทางสู่ ตลาดแกรนด์บาร์ซ่า (Grand Bazaar) เป็นหนึ่งในตลาดในร่มที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลก ภายใต้หลังคาที่ยาวไม่มีที่สิ้นสุด คุณจะได้พบกับกระเบื้องระยิบระยับ เครื่องเทศ เครื่องปั้นดินเผา เครื่องทองเหลือง เครื่องหนัง ชุดระบำหน้าท้อง ไปป์ และที่เขี่ยบุหรี่ รวมไปถึงหนังสือทำมือและงานหัตถกรรมต่างๆ

นำท่านเดินเล่น ย่าน Balat Old Houses ย่านที่เต็มไปด้วยบ้านไม้สีสันสดใส โบสถ์ มัสยิด และร้านค้า ย่านนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวยิว กรีก และอาร์เมเนีย ปัจจุบันย่านนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก อิสระให้ท่านเดินเล่น ท่าเรือกาลาตา (Galata port) โครงการขนาดใหญ่นี้ตั้งอยู่บนชายฝั่งยุโรปของกาลาตา มีร้านอาหารและเครื่องดื่มมากกว่า 250 แห่ง สถานที่นี้เป็นการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างประวัติศาสตร์ ความทันสมัย และธรรมชาติ และเป็นอีกหนึ่งจุดรวมสินค้าแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในระดับโลกหรือ แบรนด์ระดับประเทศอีกด้วย

อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย ได้เวลาอันสมควรนำท่านสู่สนามบิน

23.20 น. ñออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK118 (ä บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

04.50 น. ëเดินทางถึง เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง

09.40 น. ñออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 372 (ä บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

19.15 น. J เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ