เบตง หาดใหญ่ ปัตตานี ยะลา 3 วัน 2 คืน

โดยสายการบินแอร์เอเชีย หรือ นกแอร์ หรือ ไลอ้อนแอร์ (น้ำหนักกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง 7 กก.)

ไม่รวมน้ำหนักกระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่องบิน

บริการอาหาร 7 มื้อ / เมนูพิเศษ ไก่เบตง ปลานิลสายน้ำไหล เคาหยก ชิ้มวุ้นดำ

กำหนดการเดินทาง กรกฏาคม-ธันวาคม 2567

วันแรกของการเดินทาง สนามบินดอนเมือง – สนามบินหาดใหญ่ – – เบตง – หอนาฬิกา – ตู้ไปรษณีย์ใหญ่ที่สุดในโลก – สตรีทอาร์ตเบตง – อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ อาหาร –/กลางวัน/ค่ำ

06.00 น. พร้อมกัน ณ สนามบินดอนเมือง เจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยให้การต้อนรับ ออกเดินทางสู่หาดใหญ่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง น้ำหนักกระเป๋าสำหรับถือขึ้นเครื่องบิน ท่านละ 7 กิโลกรัม / ไม่มีโหลดใต้ท้องเครื่องบิน

ขาไป

06.40 น. เหินฟ้าสู่ หาดใหญ่ สายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD3102

08.05 น. เดินทางถึง หาดใหญ่ หลังจากนั้นนำท่านท่องเที่ยวโดยรถตู้ปรับอากาศ VIP ออกเดินทางสู่ปัตตานี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

ขากลับ

22.00 น. เหินฟ้าจาก สนามบินหาดใหญ่ สายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD3113

23.35 น. เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง โดยสวัสดิภาพฯ พร้อมความประทับใจ

หรือเที่ยวบิน

ขาไป

06.20 น. เหินฟ้าสู่ หาดใหญ่ สายการบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD500

07.45 น. เดินทางถึง หาดใหญ่ หลังจากนั้นนำท่านท่องเที่ยวโดยรถตู้ปรับอากาศ VIP ออกเดินทางสู่ปัตตานี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

ขากลับ

20.35 น. เหินฟ้าจาก สนามบินหาดใหญ่ สายการบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD 509

22.00 น. เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง โดยสวัสดิภาพฯ พร้อมความประทับใจ

หรือเที่ยวบิน

ขาไป

06.15 น. เหินฟ้าสู่ หาดใหญ่ สายการบินไลอ้อนแอร์ เที่ยวบินที่ SL702

07.45 น. เดินทางถึง หาดใหญ่ หลังจากนั้นนำท่านท่องเที่ยวโดยรถตู้ปรับอากาศ VIP ออกเดินทางสู่ปัตตานี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

ขากลับ

21.50 น. เหินฟ้าจาก สนามบินหาดใหญ่ สายการบินไลอ้อนแอร์ เที่ยวบินที่ SL721

23.20 น. เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง โดยสวัสดิภาพฯ พร้อมความประทับใจ

หมายเหตุ ที่นั่งบนเครื่องบินเป็นระบบ Random ไม่สามารถล็อคที่นั่งได้ ที่นั่งอาจไม่ได้นั่งติดกัน และไม่สามารถเลือกช่วงที่นั่งบน เครื่องบินได้ เพราะเป็นตั๋วกรุ๊ป ตามเงื่อนไขของสายการบิน ไม่รวมน้ำหนักกระเป๋าสำหรับโหลดใต้ท้องเครื่อง

ท่านสามารถซื้อน้ำหนักกระเป๋าหรืออัพที่นั่งได้ก่อนเดินทาง 72 ชั่วโมง (มีค่าใช้จ่าย)

 แต่สามารถถือขึ้นเครื่องบินได้น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม**

เช้า อิสระอาหารเช้า ตามอัธยาศัย ไม่รวมอยู่ในรายการนำเที่ยว

นำท่านเดินทางท่องเที่ยวจังหวัดปัตตานี ทำท่านสักการะ ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว หรือ ศาลเจ้าเล่งจูเกียง เป็นศาลเจ้า เก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของ จ.ปัตตานีมาตั้งแต่โบราณ ตั้งอยู่ที่ถนนอาเนาะรู อำเภอเมือง ปัตตานี เดิมศาลเจ้านี้มีชื่อเรียกว่า \"ศาลเจ้าซูก๋ง\" ตามหลักฐานที่จารึกอยู่ในศาลเจ้า ตั้งขึ้นในปีปีพุทธศักราช 2117 ในรั ชสมัยของสมเด็จพระมหาธรรมราชาแห่งกรุงศรีอยุธยา แม้ศาลเจ้านี้จะตั้งมาเก่าแก่นับได้หลายศตวรรษ แต่ด้วยบุญญาภินิหารของเจ้าแม่หลิมกอเหนี่ยว ศาลเจ้านี้จึงมีความเจริญรุ่งเรืองและเป็นที่ศรัทธาของสาธุชนเสมอมามิได้ขาด

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารท้องถิ่น [มื้อที่ 1]

บ่าย ท่านเดินทางสู่ อ.เบตง อำเภอที่อยู่ใต้สุดของประเทศไทย เมืองใต้สุดปลายด้ามขวาน เมืองที่ล้อมด้วยขุมเขาและมีทะเลหมอกเกือบทั้งปี นำท่านถ่ายรูปบริเวณ สัญลักษณ์ของเมืองเบตง ตั้งเป็นศูนย์กลางของสี่แยกวงเวียนกลางเมือง ใกล้ๆกันนั้นมี ตู้ไปรษณีย์แห่งอำเภอเบตง ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและใหญ่ที่สุดในโลก โดยสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงความยากลำบากในการติดต่อสื่อสารระหว่าง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2467 ตั้งแต่ก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ลักษณะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ด้านบนของตู้ได้บรรจุลำโพงไว้ข้างในและเจาะรูกลมๆไว้รอบๆ เพื่อกระจายเสียงรายงานข่าวสารของทางราชการ มีอายุรวม 86 ปี ให้ท่านถ่ายภาพเป็นที่ระลึก

จากนั้นนำท่าน จากนั้นเดินทางสู่ สตรีทอาร์ต STREET ART ถนนศิลปะเมืองเบตง เกิดขึ้นจากน้ำพักน้ำแรงของ ทีมนักศึกษาและอาจารย์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วาดขึ้นมาในงานครบรอบ 111 ปี เมืองเบตง เพื่อสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวและชาวเบตง เนรมิตรงานศิลปะ บอกเล่าถึงเรื่องราววิถึชีวิต และสัญลักษณ์ของเมืองเบตง รอบเมืองเบตง 11 จุด ทั้งบนผนัง กำแพง ใต้สะพาน และตัวอาคารหลายจุดรอบเมืองเบตงสามารถดึงดูดใจนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ถนนคนเดินเบตง อิสระให้ท่านเดินช้อปปิ้งเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองหรือลิ้มลองอาหารตามอัธยาศัย

นำท่านชม อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ อุโมงค์ขนาดใหญ่ที่เจาะผ่านภูเขาเพื่อเชื่อมต่อส่วนขยายของเมืองไปอีกฟากของตัวเมือง อุโมงค์แห่งนี้ยังเป็นอุโมงค์ที่ผู้คนสามารถใช้สัญจรไปมาด้วยรถยนต์แห่งแรกของประเทศไทย ภายในอุโมงค์ตกแต่งประดับประดาด้วยไฟหลากสีตัวอุโมงค์มีความยาวถึง273 เมตร กว้าง 9 เมตร ผิวจราจรคู่ กว้าง 7 เมตร ทางเท้าเดินกว้างข้างละ 1 เมตร และมีความสูงถึง 7 เมตร เปิดใช้อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2544

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหารท้องถิ่น [มื้อที่ 2]

พักที่ THE HOLIDAYS HILL HOTEL , BETONG HELLO HOTEL , MODERN THAI HOTEL

หรือระดับเทียบเท่า พักห้องละ 2-3 ท่าน

วันที่สองของการเดินทาง ถ่ายรูปสะพานแตปูซู – สวนหมื่นบุปผา – อุโมงค์ปิยะมิตร – ร้านเฉาก๊วยวุ้นดำ ก.ม.4 – บ่อน้ำร้อนเบตง – ป้ายใต้สุดสยาม – วัดพุทธาธิวาส – โรงแรมที่พัก อาหาร เช้า/กลางวัน/ค่ำ

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ร้านอาหารท้องถิ่น [มื้อที่ 3] เมนู ติ่มซำ

จากนั้นให้ท่าน ถ่ายรูปสวยๆกับ สะพานแตปูซู เป็นสะพานแขวนไม้เก่าแก่สร้างข้ามแม่น้ำปัตตานี มีนายมูเซ็ง แตปูซู เป็น ผู้บุกเบิกให้

นำท่านชม สวนหมื่นบุปผา หรือ สวนไม้ดอกเมืองหนาวเบตง เป็นสวนดอกไม้เมืองหนาวแห่งเดียวในภาคใต้ เนื่องจากเบตงมีสภาพอากาศที่เหมาะสม ด้วยสภาพภูมิประเทศที่อยู่สูงจากระดับทะเลปานกลางราว 800 เมตร มีอากาศเย็นสบายตลอดปี ระบบน้ำเพียงพอ จึงมีความเหมาะสมกับการปลูกไม้ดอกเมืองหนาว

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารท้องถิ่น [มื้อที่ 4] เมนูพิเศษ ปลานิลสายน้ำไหล

บ่าย จากนั้นเดินทางสู่ อุโมงค์ปิยะมิตร ในอดีตเคยถูกใช้เป็นฐานในการหลบซ่อนตัว และเป็นแหล่งสะสมเสบียงในการต่อสู้ของกลุ่มผู้ขัดแย้งทางการเมืองในคาบสมุทรมาลายา ในเวลาต่อมากลุ่มผู้ที่เคยใช้อุโมงค์แห่งนี้ในการพักพิง ไม่หลงเหลืออยู่อีกต่อไปแล้ว ภายในอุโมงค์สีเหลืองส้มนวลตาแต่ก็ชวนให้นึกถึงภาพอดีต อุโมงค์ถูกแบ่งออกเป็นห้องหรือช่องต่าง ๆ ตามการใช้งาน เช่น ห้องนอน ห้องเก็บเสบียง เป็นต้น อากาศภายในเย็นสบายไม่อึดอัดภายในอุโมงค์มีความยาวกว่า 1 กิโลเมตร ระหว่างทางเดินไปสู่อุโมงค์ต้องเดินผ่านป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์มากๆ

จากนั้นนำท่านสู่ ร้านวุ้นดำ กม. 4 หรือ ร้านเฉาก๊วย ร้านต้นตำหรับอร่อยระดับตำนาน เฉาก๊วยที่ผ่านกระบวนวิธีทำแบบดั้งเดิม ต้มเคี่ยวหญ้าเฉาก๊วยมากกว่า 3 ชั่วโมง ด้วยเตาฟืน ซึ่งจะทำให้มีกลิ่นหอมของหญ้าเฉาก๊วย ที่มากไปด้วยสรรพคุณทางยา ช่วยแก้ร้อนในกระหายน้ำ ขับเสมหะ แก้คลื่นไส้ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และหากนำต้นเฉาก๊วยมาต้มให้เดือดแล้วนำน้ำเฉาก๊วยมาดื่มเป็นประจำจะช่วยลดอาการโรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวานได้อีกด้วย

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ บ่อน้ำร้อนเบตง เป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ มากมาย โดยอุณหภูมิของน้ำนั้นอยู่ที่ประมาณ 80 องศาเซลเซียส และบริเวณที่น้ำเดือดนี้สามารถต้มไข่ไก่ได้จนสุกภายใน 7 นาทีเท่านั้น มีการสร้างสระน้ำขนาดใหญ่สำหรับกักน้ำจากน้ำพุร้อนเพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ใช้อาบหรือแช่เท้าเล่น

นำท่านแวะ ถ่ายรูปกับ ป้ายใต้สุดสยาม ป้ายกั้นเขตแดนระหว่างประเทศไทย และประเทศมาเลเซีย มีเอกลักษณ์ลายเส้นแผนที่ประเทศไทยสีทองโดดเด่นสลักบนป้ายหินอ่อน รายล้อมไปด้วยธรรมชาติและไม้ดอกไม้ประดับอันงดงาม เป็นสถานที่ถ่ายรูปยอดนิยมของนักท่องเที่ยว

จากนั้นเดินทางสู่ วัดพุทธาธิวาส วัดสวยตั้งอยู่ใจกลางเมืองเบตง โดยองค์เจดีย์ตั้งอยู่บนเนินเขา มีทัศนียภาพที่สวยงดงาม มองเห็นภูเขาที่รายล้อมเมืองเบตงอยู่เบื้องหน้า มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พุทธศาสนิกชนนิยมมาสักการะบูชา 3 สิ่งคือ พระมหาธาตุเจดีย์ พระพุทธธรรมประกาศ พระพุทธ ธรรมกายมงคลปยุรเกศานนท์สุพพิธาน และวิหารหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ลักษณะเจดีย์ก่อสร้างแบบศรีวิชัยประยุกต์ สีทองอร่าม สูง 39.9 เมตร บรรจุพระบรมสารีริกธาตุสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในวโรกาสพระชนมายุครบ 60 พรรษา

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหารท้องถิ่น [มื้อที่ 5] เมนูพิเศษ ไก่เบตง

พักที่ THE HOLIDAYS HILL HOTEL , BETONG HELLO HOTEL , MODERN THAI HOTEL

หรือระดับเทียบเท่า พักห้องละ 2-3 ท่าน

วันที่สามของการเดินทาง SKY WALK อัยเยอร์เวง – วัดช้างให้ – หาดใหญ่ – มัสยิดกลางจังหวัดสงขลา – ตลาดกิมหยง – สนามบินหาดใหญ่ – สนามบินดอนเมือง อาหาร เช้า/กลางวัน/–

04.00 จากนั้นนำท่านสู่ จุดชมวิว SKY WALK ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ในเขตพื้นที่ของเขาไมโครเวฟกิโลเมตรที่ 32 มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,038 ฟุต ให้ท่านเต็มอิ่มกับการชมทะเลหมอกแบบหนา ๆ ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดได้อย่างสวยงาม (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ร้านอาหารท้องถิ่น [มื้อที่ 6]

ท่านสามารถเลือกรับประทานอาหารเช้า ได้ท่านละ 1 จาน เมนู ข้าวมันไก่,โจ๊ก,ข้าวหมกไก่

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดราษฎร์บูรณะ หรือ วัดช้างให้ เป็นวัดเก่าแก่ราว 300 ปี สร้างมาเมื่อใดและใครเป็นคนสร้างก็ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด เดิมเป็นวัดร้างและถูกทอดทิ้งมาเป็นเวลานาน ถือเป็นวัดต้นตำรับของหลวงปู่ทวด ท่านเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของวัด ในส่วนของสถูปศักดิ์สิทธิ์ที่บรรจุอัฐิหลวงพ่อทวด ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวจังหวัดปัตตานีและใกล้เคียง มีผู้คนไปกราบไหว้บนบานอยู่เนืองนิจใครเจ็บไข้ได้ป่วยหรือวัตถุสิ่งของถูกขโมย หรือศูนย์หายก็พากันไปบนบาน ณ ที่สถูปแห่งนี้ ภายในวัดยังมีวิหารสมเด็จหลวงพ่อทวด เป็นวิหารที่ประดิษฐานรูปเหมือนของหลวงพ่อทอง ซึ่งมีขนาดเท่องค์จริง รูปแบบการก่อสร้างเป็นแบบก่ออิฐถือปูนทรงไทยสวยงาม

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารท้องถิ่น [มื้อที่ 7]

นำท่านแวะพามาถ่ายรูปสวยๆ กันที่ \"ทัชมาฮาลเมืองไทย\" มัสยิดกลางสงขลา งานนี้มาแล้วได้รูปสวยๆ กลับแน่นอน เป็นสถานที่ทางศาสนาที่คนรักการถ่ายภาพรู้จักกันดี มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม และหรูหรา ด้านหน้ามีสระน้ำที่ทอดยาวกว่า 200 เมตร ทำให้มัสยิดแห่งนี้มีลักษณะคล้ายกับทัชมาฮาลในอินเดีย โดยเฉพาะพระอาทิตย์ตกที่นี่ก็งดงามเป็นพิเศษ จึงไม่น่าแปลกใจที่สถานที่แห่งนี้จะได้รับความนิยมจากช่างภาพ

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นำท่านสู่ ตลาดกิมหยง เป็นตลาดขายของฝากและของที่ระลึกขนาดใหญ่ในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ตั้งอยู่บนอาคารสองชั้น ริมถนนละม้ายสงเคราะห์ ชั้นบนเป็นร้านขายสินค้า ชั้นล่างเป็นตลาดขายของแห้ง อิสระให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าตามอัธยาศัย

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานหาดใหญ่

หมายเหตุ : โปรแกรมการท่องเที่ยว อาจมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม