วันแรก กรุงเทพ-อิสตันบูล

20.00 น. พร้อมกัน ณ เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบิน TURKISH AIRLINES อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ สนามบินสุวรรณภูมิโดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระและเอกสารการเดินทางทำผ่านขั้นตอนการตรวจคนออกนอกประเทศ

23.05น. ออกเดินทางสู่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี เที่ยวบินที่ TK 69 (ใช้เวลาบินประมาณ 10.25 ชั่วโมง) เพลิดเพลิกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบินฯ บริการ อาหารเช้าระหนว่างเที่ยวบินสู่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี

วันที่สอง อิสตันบูล-กรุงซาเกรบ โครเอเชีย

05.20 น. เดินทางถึงกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี (แวะพักเปลี่ยนเครื่อง)

06.55 น. ออกเดินทางสู่สนามบินซาเกร็บ (ZAG) ประเทศโครเอเชีย เที่ยวบินที่ TK1053

08.00 น. เดินทางถึงสนามบินซาเกร็บ หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง พร้อมรับสัมภาระเรียบร้อย

นำท่านเดินทางสู่ กรุงซาเกรบ (Zagreb) ที่มี

ประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าพันปี ผ่านจัตุรัสที่มีรูปปั้น

ของนายพล “บานโจซิฟ เจลาซิค” (Ban Josip Jelacic) ที่เป็นวีรบุรุษของประเทศ

นำทหารชาวโครแอตต่อต้านฮังการีในสมัยต้นศตวรรษที่ 19 ต่อด้วยเดินชม

เขตเมืองเก่าตอนบนและตอนล่าง ที่เชื่อมกันด้วยรถราง Fun icular ที่มี

ความยาวสั้นที่สุดในยุโรป นำท่านนั่งรถรางสู่ เมืองตอนบน ของกรุงซาเกรบ

ผ่านชมประตูเมืองเก่า ป้อมปราการโบราณและโบสถ์เซนต์มาร์ก ที่ตั้งอยู่ในเขต

ที่ทำการรัฐบาล โดยโบสถ์แห่งนี้มีหลังคาที่โดดเด่น ไม่ซ้ำใคร

นำท่านเดินชม เมืองตอนบนผ่าน ประตูหิน (Stone Gate) ที่เคยเหตุการณ์ไฟ

ไหม้ในอดีต แต่มีรูปของพระแม่มารียังคงเหลืออยู่เพียงสิ่งเดียว เป็นความ

มหัศจรรย์ที่รูปของพระแม่มารีไม่โดนไฟไหม้ ทำให้ปัจจุบันชาวพื้นเมืองนิยมมาไหว้บูชาหรือขอบคุณกับสิ่ง

ปาฏิหาริย์ ที่เคยขอแล้วได้ดั่งที่ต้องการ สังเกตจากแผ่นหินที่ติด โดยรอบ จะสลักคำว่า “HVALA” ที่แปลว่า

ขอบคุณ ในภาษาท้องถิ่น จากนั้นนำท่านชมตลาดกลางเมือง (Dolac Market) ตลาดกลางแจ้งที่เก่าแก่ที่มีสีสันสดใส ขายไม้ดอก ไม้ประดับ, ผลไม้ราคาถูกและผ้าลูกไม้สวยแบบต่างๆ

จนได้เวลาอันสมควร นำท่านเข้าชมมหาวิหาร เซนต์ สตีเฟ่น(St. Stephen’s Cathedral) โบสถ์คาทอลิกประจำเมืองซาเกรบ พร้อมรับฟังเรื่องเล่าทาง

ประวัติศาสตร์ที่สำคัญของโบสถ์ เชิญท่านอิสระตามอัธยาศัยกับการเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึกในย่านการค้า

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองพลิทวิเซ่ (Plitvice) ซึ่งมี Plitvice Lake National Park อุทยานแห่งชาติที่ใหญ่และมี

ชื่อเสียงที่สุดในประเทศโครเอเชีย เป็นอุทยานแห่งชาติ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO

โดยระหว่างทาง ชมทัศนียภาพเลียบชายฝั่งริมทะเลอาเดรียติกที่สวยงาม 

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม Mirijana Rastoke 4*หรือเทียบเท่า

วันที่สาม อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ -ซาดาร์-โทรเกียร์-เมืองสปลิท

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเข้าชมอุุทยานแห่งชาติทะเลสาบพลิทวิเซ่ (Plitvice Lake National Park) ชมความงดงามของอุทยาน ได้รับเป็นมรดกโลกในปี 1979 มีทะเลสาบ ที่มีจำนวนทั้งหมด 16 แห่ง เชื่อต่อกัน และเนื่องจากสภาพภูมิประเทศเป็นเทือกเขาที่มีระดับสูงต่ำไม่เท่ากัน ทะเลสาบย่อย ๆ จึงวางตัวลดหย่อนกันตามเนินเขา น้ำที่ไหลไปมาระหว่างทะเลสาบจึงกลายเป็นน้ำตกใหญ่น้อยสวยงามมาก สีของน้ำในทะเลสาบยัง แตกต่างกันออกไปตามแต่ละพื้นที่ ช่วงฤดู และช่วงเวลาในแต่ละวัน ทั้งน้ำสีเขียว สีฟ้า สีคราม สีเทา สะท้อนแร่ธาตุสิ่งมีชีวิตภายในแม่น้ำแต่ละช่วง ให้ท่านเก็บภาพประทับกับความสวยงามของธรรมชาติ

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

นำท่านเดินทางผ่านเมืองซาดาร์ (Zadar) เป็นเมืองท่าสำคัญของทะเลเอเดรียติค ที่มีบทบาทมาตั้งแต่สมัยโรมันจนถึงปัจจุบันอดีตเมืองหลวงเก่าของภูมิภาคดัลเมเชีย (Dalmatia) นำท่านเดินทางต่อสู่เมืองโทรเกียร์ (Trogir)เมืองสวยที่เป็นมรดกโลก นำท่านชมเขตเมืองเก่าที่มีสถาปัตยกรรมในสไตล์ กรีก – โรมันโบราณ ประตูเมืองเก่าที่ได้มีการบูรณะขึ้นใหม่เมื่อศตวรรษที่ 16 , หอนาฬิกาที่สร้างขึ้นในสมัยที่ 14 ผ่านชมมหาวิหารเซ็นต์ลอว์เรนซ์ (St. Lawrence Cathedral) ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 ใช้เวลาก่อสร้างนับสิบปี ที่มีความงดงามด้วยกรอบและบานประตูหินแกะสลัก มีรูปปั้นสิงโต อดัม & อีฟและรูปสลักนักบุญเซนต์ลอว์เรนซ์องค์สำคัญ ที่ผู้สร้างมหาวิหารแห่งนี้อุทิศให้ซึ่งปัจจุบันด้วยเอกลักษณ์และความเก่าแก่ของเมืองโทรเกียร์ทำให้ยังได้รับการยกย่องจาก ยูเนสโกให้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกโดยองค์การ (UNESCO) ในปี 1997 อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าท้องถิ่นที่ระลึก ได้เวลาอันสมควรเดินทางสู่เมืองสปลิท (Split) เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศโครเอเชีย มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่ามีการตั้งถิ่นฐานของชนพื้นเมืองตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ นำท่านชมพระราชวังดิโอคลีเธี่ยน (Diokletian Palace) ที่สร้างขึ้นจากพระประสงค์ของจักรพรรดิ์ดิโอคลีเธี่ยนที่ต้องการสร้างพระราชวังสำหรับบั้นปลายชีวิตของพระองค์ในปี 295 ซึ่งใช้เวลาในการก่อสร้างถึง 10 ปี ชมห้องโถงกลางซึ่งมีทางเดินที่เชื่อมต่อสู่ห้องอื่นๆ ชมลานกว้าง (PERISTYLE) ซึ่งล้อมไว้ด้วยเสาหินแกรนิต 3 ด้าน และเชื่อมต่อด้วยโค้งเสาที่ตกแต่งด้วยช่อดอกไม้สลักอย่างวิจิตรสวยงาม ชมยอดระฆังแห่งวิหาร THE CATHEDRAL BELFRY แท่นบูชาของเซนต์โดมินัสและเซนต์สตาซิอุส ซึ่งอยู่ภายในวิหารชมจัตุรัสประชาชน (PEOPLE’S SQUARE) ชมรูปปั้นของ GREGORY OF NIN ผู้นำศาสนาคนสำคัญของโครเอเชียในยุคศตวรรษที่ 10 ซึ่งเป็นฝีมือของ IVAN MESTROVIC ช่างปั้นที่มีชื่อเสียงของโครเอเชีย

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม San Antonio in Split 4*หรือเทียบเท่า

วันที่สี่ เมืองซาราเยโว (Sarajevo) บอสเนียแอนด์เฮอร์เซโกวีน่า

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เดินทางสู่เมืองซาราเยโว (Sarajevo) เมืองหลวงของประเทศบอสเนีย

แอนด์เฮอร์เซโกวีน่าที่ร่ำรวยไปด้วยวัฒนธรรมและศาสนา เมืองนี้

เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่า East meet West city หรือก็คือเมืองที่มาการ

ผสมผสานระหว่างตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกัน ตั้งอยู่บริเวณ

ภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ของยุโรป ประกอบด้วย 2 ส่วนทางเหนือ

และใต้ ทางตอนเหนือคือส่วนที่เป็น “Bosnian” และส่วนที่อยู่ทาง

ตอนใต้คือ “Herzegovinia” โดยเฉพาะเอกลักษณ์โดดเด่นของชาวบอสเนียนที่มีทั้งชาวมุสลิมและชาวคริสต์อยู่

อาศัยร่วมกันมาอย่างยาวนาน จนถึงกับมีการตั้งฉายาให้ซาราเยโวว่า “เยรูซาเล็มแห่งโลกตะวันตก” สร้างขึ้นโดย

อาณาจักออตโตมัน ในปี1450ให้เป็นเมืองศูนย์กลางการปกครองดินแดนคาบสมุทรบอลข่าน

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน

น่าท่านสู่ จตุรัสบาสคาร์เซีย(Baščaršija Square) เรียกได้ว่าเป้นดาวน์ทาวน์แห่งซาราเยโว มีร้านของฝากของที่

ระลึกมากมาย เต็มไปด้วย “นกพิราบ” อีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของซาราเยโว และมีน้ำพุไม้โบราณ “Sebilj” ที่มี

ลักษณะแบบออตโตมันตั้งอยู่ ในช่วง ศ.ต.17 มีการบันทึกว่ามีน้ำพุชนิดนี้อยู่มากกว่า 300 แห่งในซาราเยโว แต่ก็

ถูกเผา และทำลายไปในการทำสงครามหลาย ๆ ครั้ง จนปัจจุบันเหลือเพียงแค่แห่งเดียว ณ จตุรัสแห่งนี้

ชม Latin Bridge” ลาตินบริตจ์ สะพานที่เก่าแก่ที่สุด สะพานแห่งนี้คงจะเป็นสถานที่แรกเป็นสถานที่ที่ “ฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์” อาร์ชดยุกแห่งออสเตรีย องค์รัชทายาทของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี ถูกลอบปลงพระชนม์พร้อมด้วยพระชายา ขณะเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนซาราเยโวด้วยรถเปิดประทุนพระที่นั่ง โดย “กาฟริโล พรินซิป” (Gavrilo Princip) ชาวบอสเนียเชื้อสายเซิร์บ ชมย่านช้อปปิ้งใจกลางเมืองเก่า Sarajevo Meeting of Cultures ที่ประกอบด้วย 2 ถนนหลัก ฝั่งตะวันตกคือถนน “Ferhadija”

เป็นร้านค้าอาคารบ้านเรือนแบบวัฒนธรรมตะวันตก กลิ่นอายของชาวคริสต์ ส่วนถนนทางฝั่งตะวันออกคือถนน

“Sarači” ลักษณะวัฒนธรรมแบบชาวมุสลิม ซึ่งตรงกลางระหว่างสองถนนเส้นนี้ เป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่เป็น

สัญลักษณ์ แสดงถึงความแตกต่างของทั้งสองวัฒนธรรม แต่อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขมาอย่างยาวนาน ชมมัสยิด

Gazi Husrev-beg Mosque สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 เป็นมัสยิดเก่าแก่ที่ใหญ่ที่สุดในบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา

และเป็นหนึ่งในโครงสร้างออตโตมันที่เป็นตัวแทนมากที่สุดในคาบสมุทรบอลข่าน และชม Sacred Heart

Cathedral เป็นอาสนวิหารของโรมันคาทอลิก และเป็นอาสนวิหารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม Swiss Hotel Sarajevo4*หรือเทียบเท่า

วันที่ห้า โมสตาร์ (บอสเนีย)-มาลี สตอน-ดูบรอฟนิก (โครเอเชีย)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เดินทางสู่เมืองโมสตาร์ (Mostar) ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศบอสเนีย – เฮอร์เซโกวินา โมสตาร์เป็นศูนย์กลางของศาสนาอิสลามในบอสเนีย เมืองที่มีเรื่องเล่าของสองเชื้อชาติ สองศาสนา และหนึ่งสะพานที่เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน นำท่านชมย่านเมืองเก่า (Old Town) ชมสถาปัตยกรรมแบบออตโตมันโบราณพร้อมกับบ้านเรือนสไตล์นีโอคลาสสิคออสโตรฮังกาเรียน ชมสะพานเก่า Mostar Old Bridge สัญลักษณ์อันโด่งดังของเมืองโมสตาร์ สตารี โมสต์ (Stari Most) เป็นสะพานที่สร้างขึ้นเหนือแม่น้ำเนเรตวา (Neretva) ในปี 1557 คือสิ่งเชื่อมโยงระหว่างคนโครแอตซึ่งนับถือศาสนาคริสต์โรมันคาธอลิกกับคนบอสเนียนที่นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งต่างอาศัยอยู่กันคนละฝากฝั่งของแม่น้ำเนเรตวา สะพานแห่งนี้คือตัวแทนของการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขบนความแตกต่างของคนสองชาติพันธุ์ สะพานนี้ได้ถูกทำลายสงครามกลางเมือง ปัจจุบันสะพานได้ถูกซ่อมแซมใหม่โดยใช้รูปแบบสะพานในสมัยออตโตมันศตวรรษที่ 16 ชมสุเหร่าและมัสยิดเมเมดปาชา (Mehmed Pasha Mosque) มัสยิดขนาดใหญ่ภายในตกแต่งด้วยพรมหลากสีสันและภาพเฟรสโก้ที่

เที่ยงบริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

เดินทางสู่เมืองมาลี สตอน (Mali Ston) เป็นเมืองเล็กๆริมทะเลทางตอนใต้ของโครเอเชีย ตั้งอยู่ ณ คาบสมุทรเพลเยแซค (Peljesac) ใกล้พรมแดนเมือง “นีอุม” ประเทศบอสเนีย เป็นเมืองที่มีชื่อเสียง ในเรื่องของอาหาร ทะเลรสเลิศ นั่งเรือชมฟาร์มเลี้ยง(ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ณ วันที่เดินทาง)หอยนางรมที่มีชื่อเสียงโดยท่านจะได้ชิมหอยนางรมสด ๆ จากฟาร์มพร้อมจิบไวน์ชั้นดี(Oyster Farm) ซึ่งเมืองมาลี สตอนเป็นเมืองที่เปรียบเสมือนตัวแทนของประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมยุคกลางคือ กําแพงเมืองโบราณ ซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อล้อมรอบเมืองโดยกำแพงโบราณแห่งนี้ใช้เวลาในการก่อสร้างกําแพงนี้ประมาณ 200 ปี ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ เมืองดูบรอฟนิค (Dubrovnik)

ค่ำบริการอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม Adria Hotel 4* หรือเทียบเท่า

วันที่หก ดูบรอฟนิก(โครเอเชีย)-กอเตอร์(มอนเตเนโกร)

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองดูบรอฟนิค (Dubrovnik) ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองเก่าที่สวยที่สุดในยุโรป สมญานาม \"ไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก\" ด้วยความลงตัวของสถาปัตยกรรมและผังเมืองที่เป็นระเบียบ เป็นเมืองที่มีอำนาจทางทะเลตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 และมีความเจริญรุ่งเรืองทางการค้า จึงได้สร้างความยิ่งใหญ่ให้โดดเด่น ด้วยการตกแต่งพระราชวัง สร้างโบสถ์ วิหาร จัตุรัส น้ำพุ และบ้านเรือนต่าง ๆ และได้รับการบูรณะและปรับเปลี่ยนอย่างงดงามตามยุคสมัยอยู่ทางตอนใต้ของสาธารณรัฐโครเอเชีย เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และมรดกทางวัฒนธรรมมากมาย ตั้งอยู่ในภูมิประเทศที่ฉากหลังเป็นเนินเขา เบื้องหน้าติดกับทะเลเอเดรียติก มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ซึ่งเมืองนี้ได้ยังเป็นสถานที่ถ่ายทำหนังชื่อดัง Game of Thrones

นำท่านชมเมืองเก่า (Old Town) ซึ่งโอบล้อมด้วยกำแพงโบราณสูงตระหง่านในศตวรรษที่ 13 เพื่อป้องกันภัยจากศัตรู เช่น พวกอาหรับ เวเนเชียน มาชีโดเนียนและเซิร์บและในเขตเมืองเก่าประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างโบราณ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก และเป็นเขตชุมชนเริ่มแรกที่บรรพบุรุษชาวดูบรอฟนิกมาสร้างบ้านเมืองไว้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 ชมประตูเมือง (Pile Gate) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ซึ่งเป็นทางเข้าหลัก ของเมืองเก่าและพื้นทางเดินถูกสร้างขึ้นจากหินในปี 1537 ชมน้ำพุโบราณทรงกลม (Onfrio Fountain) เป็นน้ำพุที่ใช้หล่อเลี้ยงประชากรในยามมีศึกสงคราม จากนั้นนำท่านชมสถานที่สำคัญต่าง ๆ เช่น Franciscan Monastery และ Dominican Monastery สองวิหารในสถาปัตยกรรมรูปแบบโกธิก ชมพระราชวังเรคเตอร์ (Rector’s Palace) ให้ท่านได้อิสระถ่ายรูปบริเวณจัตุรัสกลางเมือง (Placa Street) ซึ่งเป็นสถานที่นัดพบประกอบกิจกรรมต่างๆ ของเมืองในอดีต ชมกับเสาหินอัศวิน (Orlando Column) หอนาฬิกา (Bell Tower) ที่ตั้งอยู่ปลายสุดของถนนสายหลักสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1444 หน้าปัดทำด้วยเหล็กมีความพิเศษตรงลูกกลมๆ ใต้หน้าปัดซึ่งเป็นแทนพระจันทร์บอกข้างขึ้นข้างแรมในสมัยก่อนและรูปปั้นของนักบุญ St.Blaise ซึ่งมีโบสถ์ประจำเมืองสไตล์โรมาเนสก์แห่งแรกของเมืองเป็นฉากหลังและโบสถ์ The Cathedral Treasury สถานที่เก็บอัฐิ ของนักบุญ St. Blaise รวมถึงภาพเขียนและชิ้นงานศิลปวัตถุล้ำค่าจำนวนมากและผลิตเหรียญกษาปณ์และทองที่มีชื่อเสียง

นำท่านขึ้นกระเช้าไฟฟ้า (Cable Car Ride) ชมวิวพาโนรามา ของเมืองดูบรอฟนิค ท่านจะได้เห็นความงดงามทิวทัศน์ที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของบ้านเมืองหลังคาสีส้มและความงดงามของทะเลอาเดรียติก อิสระให้ท่านเก็บภาพประทับใจ

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน

นำท่านข้ามพรมแดนสู่ประเทศ มอนเตเนโกร (Montenegro) ประเทศเล็กๆบรรยากาศสวยงามที่ เดิมที มีสถานะเป็นสาธารณรัฐในสหพันธ์สาธารณรัฐสังคมนิยมยูโกสลาเวีย ก่อนจะมาเป็นส่วนหนึ่งในสหภาพการเมืองของเซอร์เบีย – มอนเตเนโกรและเพิ่งได้รับเอกราชเป็นรัฐประชาธิปไตยเมื่อ พ.ศ. 2549 ถึงแม้จะเพิ่งได้รับเอกราชในการปกครองตนเองแต่มอนเตเนโกรก็เป็นประเทศที่ปลอดภัยและมีความทันสมัยสูง มีการคมนาคมระหว่างเมืองที่สะดวกสบาย และยังคงรักษาสถาปัตยกรรมอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ที่มีเอกลักษณ์แบบยุโรปยุคกลางไว้ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งมีความโดดเด่นด้านภูมิทัศน์ที่หลากหลายซึ่งขนานไปกับชายฝั่งทะเลเอเดรียติกและล้อมรอบด้วยเทือกเขาบอลข่าน

นำท่านชมเมืองกอเตอร์ (Kotor) เมืองเก่าแก่โบราณอายุกว่า 2,000 ปี มีประวัติศาสตร์เก่าแก่มาตั้งแต่สมัยกรีกและโรมัน ติดชายฝั่งทะเลมอนเตเนโกร เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมยุคกลางและมรดกทางวัฒนธรรมมากมาย โดยองค์กรยูเนสโกได้ระบุไว้ให้เป็น “โลกทางธรรมชาติ และ มรดกทางประวัติศาสตร์” ในปี 1979 ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางการค้าในแถบทะเลเอเดรียติก รายล้อมด้วยเทือกเขาและอ่าวกอเตอร์ ภายในเมืองมีกำแพงเมือง ป้อมปราการจากอดีต คูคลองที่เชื่อมกับอ่าว และอาคารบ้านเรือนแบบยุคกลางที่ยังคงอนุรักษ์ความเก่าแก่ไว้ได้เป็นอย่างดี

นำท่านชมย่านเมืองเก่าชมความอลังการของประตูเกอดิช (Gurdich Gate) ชมโบสถ์วิหารเซนต์ไทรฟอน (The cathedral Of Saint Tyrphon) และโบสถ์เซนต์ลุคที่ตั้งอยู่ในจัตุรัสปิอัสซ่าเกรซ่า (Piazza Greca) โบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมโรมันและไบเซนไทน์ผสมผสานเข้าด้วยกัน ชมโบสถ์วิทยาลัยเซนต์แมรี่ (The church of Saint Mary’s Collegiate) อิสระให้ท่านเก็บภาพหรือเลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม Kotor Hotel 4*หรือเทียบเท่า

วันที่เจ็ด บุดวา-พอดกอรีตซา(มอนเตเนโกร)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองบุดวา (Budva) ได้รับฉายาว่าเป็น “ริเวียร่าแห่งมอนเตเนโกร” เป็นเมืองพักผ่อนตากอากาศริมทะเลอเดรียติก ชายหาดของที่นี่ขาวสะอาดและมีน้ำทะเลใสเป็นสีมรกต นำท่านแวะถ่ายรูปกับ หมู่บ้านสเวติ สเตฟาน (Sveti Stefan) ที่เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญของ ประเทศมอนเตเนโกร เพราะความน่าสนใจตรงที่เป็นเกาะที่มีถนนเชื่อมต่อกับชายฝั่ง หลังคาบ้านเรือนทำจากดินเผาสีส้ม ตัดกับสีน้ำทะเล จึงได้บรรยากาศที่ดูเป็นส่วนตัว และที่นี่ยังจัดเป็นรีสอร์ทอีกด้วย โดยเมื่อก่อน สมัยศตวรรษที่ 15 หมู่บ้านสเวติ สเตฟาน (Sveti Stefan) เคยเป็นชุมชนชาวประมงแบบเรียบง่าย ต่อมาชาวบ้านถูกขับไล่ เพื่อสร้างเกาะให้เป็นโรงแรม หมายเหตุ ทางเกาะไม่อนุญาตให้เข้าชม ยกเว้นผู้ที่พักรีสอร์ทในเกาะเท่านั้น

นำท่านชมโบสถ์ ST.JOHN CHURCH โบสถ์คาทอลิก ซึ่งใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมของบาทหลวงสมัยก่อนถ่ายรูปกับโบสถ์ SANTA MARIA CHURCH และ CHURCH OF TRINITY ซึ่งเป็นโบสถ์เก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงาม มีเวลาให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าของฝากจากเมืองบุดว่าตามอัธยาศัย

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองพอดกอรีตซา (Podgorica) เป็นเมืองหลวงของประเทศมอนเตเนโกร ตั้งอยู่บนที่ราบระหว่างเทือกเขาไดนาริค แอลป์ (Dinaric Alps)และ ทะเลสาบสกูตารี่ (Lake Scutari)ตั้งอยู่บริเวณจุดบรรจบของแม่น้ำริบนิตซาและแม่น้ำมอราชา จากนั้นนําท่านชม Cathedral of the Resurrection of Christ มหาวิหารแห่งการฟื้นคืนชีพของพระคริสต์ เป็นโบสถ์ของเมืองหลวงของมอนเตเนโกร มหาวิหารแห่งนี้ตั้งอยู่ใน “เมืองใหม่” ของ Podgorica การก่อสร้างโบสถ์เริ่มขึ้นในปี 1993 ออกแบบโดย Predrag Ristić เนื่องในโอกาสครบรอบ 1700 ปีแห่งการประกาศอิสรภาพของศาสนาแห่งมิลานจากนั้นชมอนุสาวรีย์กษัตริย์นิโคลา (Monument of King Nikola) ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับ รัฐสภามอนเตเนโกร (Montenegro`s parliament) และชม จัตุรัสรีพับริค (Republic Square) ซึ่งเป็นจัตุรัสใจกลางเมือง เป็นศูนย์รวมร้านค้าต่างๆของเมืองหลวง อิสระให้ท่านเลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม PodgoricaHotel 4* หรือเทียบเท่า

วันที่แปด สนามบินพอดกอรีตซา-อิสตันบูล-กรุงเทพ

06.00 น. นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินพอดกอรีตซา (BREAKFAST BOX)

09.15 น. ออกเดินทางสู่อิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยเที่ยวบินที่ TK1086

12.05 น. เดินทางถึงสนามบินอิสตันบูล (แวะพักเปลี่ยนเครื่อง)

16.25 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ เที่ยวบินที่ TK 58

วันที่เก้า กรุงเทพ

06.05 น. เดินทางถึงกรุงเทพ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ