เปิดทำการ จ - ศ : 08.30 - 22.00 น. ส - อา : 09.00 - 22.00 น.
eTravelWay.com logo
Add Friend Add Friend
ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นดีดี

เพิ่มเพื่อน LINE รับข่าวสาร โปรโมชั่น
@etravelway

รับโปรโมชั่นดีดี
Add Friend
เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
ทัวร์ถูกคุณภาพคุ้มค่า
ทัวร์หลุดจอง
เพิ่มเพื่อน LINE ทัวร์ไฟไหม้
@etravelway.fire

เฉพาะคอทัวร์โปรไฟไหม้
แชทผ่าน Facebook ติดต่อผ่าน Facebook
fb.me/etravelway

สอบถามทาง Facebook

ทัวร์ยุโรป

 รหัส : Z11085
เดินทางโดย : EK-เอมิเรตส์แอร์ไลน์
cos
Favolosa
โรงแรม : 4 ดาว |  จำนวนวัน : 17 วัน 14 คืน
ล่องเรือสำราญ Costa Favolosa สู่นอร์ธเคป ชมพระอาทิตย์เที่ยงคืน : ฮัมบูร์ก - มาลอย - ทรุมเซอ - ฮอนนิงสแวก - นอร์ธเคป - เลกเนส - โลโฟเตน - โบโด - โอเดน - โลเอน - สตาแวงเกอร์ - ฮัมบูร์ก
พักฮัมบูร์ก 1 คืน - พักบนเรือ 13 คืน / รวมทิปแล้ว - รวมเที่ยวทุกพอร์ต - มีหัวหน้าทัวร์ดูแลตลอดเส้นทาง - บริการน้ำดื่มวันละ 1 ขวดทุกท่าเรือ

กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ)
แวะเปลี่ยนเครื่องดูไบ - สนามบินฮัมบูร์ก, เยอรมนี - ที่ว่าการเมืองฮัมบูร์ก - เข้าชมโบสถ์เซนต์ไมเคิล - ย่านซังห์เพาลี - พักโรงแรม
ถนนประวัติศาสตร์ - โกดังชไปเคอชตัท - ท่าเรือฮัมบูร์ก - เช็กอินขึ้นเรือสำราญ Costa Favolosa - อิสระพักผ่อนบนเรือ - 20.00 PM เรือออกจากท่า
ล่องน่านน้ำทะเลเหนือ - อิสระพักผ่อนบนเรือ
11.00 AM เทียบท่ามาลอย (นอร์เวย์) - 12.30 PM พาเที่ยว Kannesteinen Rock - ถ่ายรูปโบสถ์ Sør-Vågsøy - 15.00 PM กลับขึ้นเรือสำราญ - 17.00 PM เรือออกจากท่า
ล่องน่านน้ำทะเลเหนือ - อิสระพักผ่อนบนเรือสำราญ ตลอดวัน
13.00 PM เทียบท่า เมืองทรุมเซอ - ขึ้นเคเบิลคาร์สู่ยอดเขาสโตรสไตเนิน - ชมบริเวณย่านใจกลางเมือง - มหาวิหารทรุมเซอ - เข้าชมมหาวิหารอาร์กติก - ชมบริเวณท่าเรือทรุมเซอ - 17.00 PM กลับขึ้นเรือสำราญ - 21.00 PM เรือออกจากท่า
10.00 AM เทียบท่า เมืองฮอนนิงสแวก - นอร์ธเคป - เข้าชมศูนย์นิทรรศการนอร์ธเคป - กลับขึ้นเรือ - 23.00 PM เรือออกจากท่า
ล่องน่านน้ำทะเลเหนือ - อิสระพักผ่อนบนเรือสำราญ ตลอดวัน
8.00 AM เทียบท่า เมืองเลกเนส - หมู่บ้านประมงชาวนอร์วีเจียน - เข้าชมพิพิธภัณฑ์ชาวประมงหมู่บ้านออ - หมู่บ้านรีน - สะพานฮัมนอย - เข้าชมพิพิธภัณฑ์หมู่บ้านไวกิงโลโฟตร์ - กลับขึ้นเรือสำราญ - 21.00 PM เรือออกจากท่า
8.00 AM เทียบท่าเมืองโบโด - มหาวิหารประจำเมือง - เข้าชมพิพิธภัณฑ์การบินนอร์เวย์ - กลับขึ้นเรือสำราญ - 18.00 PM เรือออกจากท่า
ล่องน่านน้ำทะเลเหนือ - อิสระพักผ่อนบนเรือสำราญ ตลอดวัน
8.00 AM เทียบท่า เมืองโอเดน - นั่งรถขับเคลื่อน 4 ล้อขนาดเล็กไปตามแนวเขาสูง - ธารน้ำแข็งบริกสดาล - หมู่บ้านโลเอน - กลับขึ้นเรือสำราญ - 17.00 PM เรือออกจากท่า
10.00 AM เทียบท่า เมืองสตาแวงเกอร์ - ชมย่านเมืองเก่าสตาแวงเกอร์ - วิหารประจำเมือง - อนุสาวรีย์สามดาบ - เข้าชม The Iron Age Farm - กลับขึ้นเรือสำราญ - 20.00 PM เรือออกจากท่า
ล่องน่านน้ำทะเลเหนือ - อิสระพักผ่อนบนเรือสำราญ ตลอดวัน
8.00 AM เทียบท่าเมืองฮัมบูร์ก - อำลาเรือสำราญ - สนามบินฮัมบูร์ก
แวะเปลี่ยนเครื่องดูไบ - กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ)
ไม่รวม ค่าวีซ่านอร์เวย์ ประมาณ 4,500 บาท ต่อท่าน - ไม่มีเจ้าหน้าที่รับ-ส่งเอกสารวีซ่า โปรดส่งเอกสารทางระบบขนส่ง ตรงถึง Center แผนกวีซ่า - ค่าแปลเอกสารที่ต้องรับรอง เป็นภาษาอังกฤษ (ถ้ามี)
เดินทาง :
27 ก.ค. 2567
-
12 ส.ค. 2567
฿
189,900
Interior - ห้องไม่มีหน้าต่าง
27 ก.ค. 2567
-
12 ส.ค. 2567
฿
228,900
Balcony - ห้องมีระเบียง
Download PDF

… ONCE IN A LIFE TIME …

ล่องเรือสำราญสู่นอร์ธเคป ชมพระอาทิตย์เที่ยงคืน 17 วัน 14 คืน

COSTA FAVOLOSA

โดยสายการบินเอมิเรตส์ (EK)

ฮัมบูร์ก - มาลอย - ทรุมเซอ - ฮอนนิงสแวก - นอร์ธเคป - เลกเนส

โลโฟเตน - โบโด - โอเดน - โลเอน - สตาแวงเกอร์ - ฮัมบูร์ก

พักฮัมบูร์ก 1 คืน + พักบนเรือ 13 คืน รวมทิปแล้ว รวมเที่ยวทุกพอร์ต

มีหัวหน้าทัวร์ดูแลตลอดเส้นทาง รวมน้ำดื่มวันละ 1 ขวดทุกท่าเรือ

เดินทาง วันที่ 27 กรกฎาคม-12 สิงหาคม 2567 เริ่มต้นท่านละ 189,900.-

รายละเอียดเที่ยวบิน

วันเดินทาง

เที่ยวบิน

ต้นทาง

ปลายทาง

เวลา

วันที่ 27 ก.ค. 67

---

สนามบินสุวรรณภูมิ

 

23.30

วันที่ 28 ก.ค. 67

EK 377

กรุงเทพ (BKK)

ดูไบ (DXB)

02.50 - 06.00

วันที่ 28 ก.ค. 67

EK 59

ดูไบ (DXB)

ฮัมบูร์ก (HAM)

08.45 – 13.35

วันที่ 11 ส.ค. 67

EK 62

ฮัมบูร์ก (HAM)

ดูไบ (DXB)

21.30 – 05.45+1

วันที่ 12 ส.ค. 67

EK 370

ดูไบ (DXB)

กรุงเทพ (BKK)

08.50 – 18.20

-ตารางเวลาบินอาจมีการเปลี่ยนแปลงเวลาได้ ตามประกาศของสายการบิน-

วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม 2567

สนามบินสุวรรณภูมิ

23.30 น. หัวหน้าทัวร์รอต้อนรับที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 แถว T ประตูทางเข้าที่ 9 เคาน์เตอร์สายการบินเอมิเรตส์ (EK)

วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม 2567

ดูไบ - ฮัมบูร์ก

02.50 น. บินสู่ สนามบินดูไบ โดยเที่ยวบิน EK 377

06.00 น. ถึง สนามบินดูไบ เพื่อเปลี่ยนเที่ยวบิน

08.45 น. บินสู่ เมืองฮัมบูร์ก (Hamburg) ประเทศเยอรมนี โดยเที่ยวบิน EK 059

13.35 น. ถึง สนามบินฮัมบูร์ก ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 6 ชม.

= ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร =

ชม เมืองฮัมบูร์ก เมืองท่าสำคัญแห่งหนึ่งของยุโรป ซึ่งตัวเมืองติดกับแม่น้ำเอลเบ (Elbe)

  • ชมภายนอกของ ที่ว่าการเมืองฮัมบูร์ก (Hamburg City Hall) อาคารขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1897 ด้วยสถาปัตยกรรมนีโอเรอเนซองส์ โดดเด่นด้วยหอคอยสูง 112 เมตร ด้านหน้าเป็นลานโล่งซึ่งเป็นสถานที่จัดงานสำคัญต่างๆ ของเมือง
  • เข้าชม โบสถ์เซนต์ไมเคิล ( Michael’s church) โบสถ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองฮัมบูร์ก สามารถจุคนได้ถึง 2,500 ที่นั่ง เป็นโบสถ์นิกายโปรเตสแตนต์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเยอรมนี สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่ไมเคิล หัวหน้าทูตสวรรค์ โดดเด่นด้วยยอดสัมฤทธิ์ทรงบาโรกที่มีความสูงถึง 132 เมตร ผ่านการบูรณะซ่อมแซมมาแล้วหลายครั้ง ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองฮัมบูร์ก
  • เที่ยวชมบรรยากาศเก่าๆ ที่ ย่านซังห์เพาลี ( Pauli) ย่านเก่าแก่ของเมือง ซึ่งในปัจจุบันรู้จักกันในชื่อย่านแสงสีแดง (Red-Light District)

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

ที่พัก Hotel NH Hamburg Altona 4* หรือเทียบเท่า

วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม 2567

ฮัมบูร์ก - COSTA FAVOLOSA

เช้า รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก

ชม เมืองฮัมบูร์ก (ต่อ)

  • ชม ถนนประวัติศาสตร์ (Historic Street) เขตเมืองเก่าริมน้ำที่เป็นที่ตั้งของโกดังและอาคารโบราณต่างๆ
  • ชมความงามของเหล่าอาคารคลังสินค้าที่สร้างขึ้นจากอิฐแดงที่ โกดังชไปเคอชตัท (Speicherstadt) ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก (UNESCO) แห่งแรกของเมืองฮัมบูร์ก และเป็นแห่งที่ 40 ของเยอรมนี มีความโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมนีโอโกธิค (Neo-Gothic) และหนึ่งในคลังสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดมีชื่อว่า เคชไปเคอร์ บี (Kaispeicher B) ซึ่งปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์การเดินเรือระหว่างประเทศ

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

14.00 น. เดินทางสู่ ท่าเรือฮัมบูร์ก ซึ่งเป็นท่าเรือที่ใหญ่เป็นอันดับสองของสหภาพยุโรปและใหญ่เป็นอันดับ 10 ของโลก พื้นที่ส่วนใหญ่ของท่าเรือเป็นบริเวณปลอดภาษี

เช็กอินขึ้นเรือสำราญ COSTA FAVOLOSA

20.00 น. เดินทางออกจาก ท่าเทียบเรือฮัมบูร์ก (Hamburg) ล่องสู่น่านน้ำทะเลเหนือ มุ่งสู่ ท่าเรือเมืองมาลอย (Maloy / Måløy)ประเทศนอร์เวย์

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

หลังอาหาร อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือมากมาย

ที่พัก COSTA FAVOLOSA

*** ทางเรือจะมีการจัดกิจกรรมซ้อมขั้นตอนการรักษาความปลอดภัย (Emergency Drill) ผู้โดยสารทุกท่านต้องเข้าร่วมกิจกรรมนี้ ซึ่งใช้เวลาในการซ้อมประมาณ 30 นาที *** (ขึ้นอยู่กับการจัดการของเรือ)

วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม 2567

ล่องน่านน้ำทะเลเหนือ

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

อิสระพักผ่อนบนเรือสำราญ สามารถร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่มีภายในเรือ ทั้งเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษีบนเรือ หรือกิจกรรมต่างๆ ตามประกาศของเรือสำราญ

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ที่พัก COSTA FAVOLOSA

วันพุธที่ 31 กรกฎาคม 2567

มาลอย (นอร์เวย์)

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

11.00 น. เรือจอดเทียบท่าที่ เมืองมาลอย (Maloy / Måløy) เมืองท่าและศูนย์กลางการปกครองของเทศบาล Vagsoy ประเทศนอร์เวย์ เมืองมาลอยตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะ Vagsoy มี สะพานมาลอย (The Maloy Bridge) เชื่อมเมืองกับแผ่นดินใหญ่ของนอร์เวย์ อดีตมาลอยเป็นท่าเรือประมงที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของนอร์เวย์ ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางการค้าบนเกาะเล็กๆ ที่ชื่อ Moldoen หรือ Maloya บนช่องแคบ Ulvesundet ที่อยู่ระหว่างเกาะ Vagsoy และแผ่นดินใหญ่ เมื่อการค้าเจริญรุ่งเรืองขึ้น เมืองก็ค่อยๆ ย้ายไปที่เกาะ Vagsoy ซึ่งใหญ่กว่า ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มาลอยถูกใช้เป็นป้อมปราการชายฝั่งของเยอรมนี จึงทำให้ชาวเมืองย้ายถิ่นฐานออกไปจากที่นี่เพื่อใช้สถานที่ในการสร้างป้อมปราการ

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

12.30 น. ชมเมืองมาลอย

  • ชม Kannesteinen Rock ก้อนหินธรรมชาติที่มีรูปร่างคล้ายดอกเห็ดสูง 3 เมตร ที่โผล่ขึ้นมาริมชายฝั่งใกล้เมืองมาลอย ซึ่งเกิดจากการเคลื่อนตัวของน้ำแข็ง และกระแสคลื่นได้พัดพาก้อนหินจากมหาสมุทรเข้ามาเป็นเวลากว่าพันปี
  • ถ่ายรูป โบสถ์ Sør-Vågsøy โบสถ์ไม้สีขาวทรงยาว ที่สร้างในปี ค.ศ. 1907 ภายในมีที่นั่งสำหรับผู้มาร่วมพิธีได้ 600 คน

15.00 น. เดินทางกลับขึ้นเรือสำราญ

17.00 น. เรือออกเดินทางสู่ เมืองทรุมเซอ (Tromso / Tromsø) เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในเขตมณฑลทรุมส์ (Troms) ของนอร์เวย์ ตั้งอยู่บนเกาะกลางทะเลในเขตอาร์กติกเซอร์เคิล บนละติจูดที่ต่ำกว่า 70 องศาเหนือ ทำให้เป็นเมืองที่สามารถเห็นพระอาทิตย์เที่ยงคืนได้ (ขึ้นอยู่กับฤดูกาล) นอกจากนี้ทรุมเซอยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งการล่าแสงเหนืออีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์บนดินของใครหลายๆ คนเลยทีเดียว

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ที่พัก COSTA FAVOLOSA


วันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม 2567

ล่องน่านน้ำทะเลเหนือ

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

อิสระพักผ่อนบนเรือสำราญ สามารถร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่มีภายในเรือ ทั้งเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษีบนเรือ หรือกิจกรรมต่างๆ ตามประกาศของเรือสำราญ

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ที่พัก เรือสำราญ COSTA FAVOLOSA

วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม 2567

ทรุมเซอ (นอร์เวย์)

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

อิสระพักผ่อนบนเรือสำราญ สามารถร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่มีภายในเรือ ทั้งเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษีบนเรือ หรือกิจกรรมต่างๆ ตามประกาศของเรือสำราญ

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

13.00 น. เรือจอดเทียบท่าที่ เมืองทรุมเซอ (Tromso / Tromsø) เมืองที่โอบล้อมรอบไปด้วยภูเขา มีธรรมชาติอันงดงาม นอกจากนี้ทรุมเซอยังเป็นเมืองแห่งมหาวิทยาลัยที่อยู่เหนือสุดของโลก โดดเด่นในเรื่องงานวิจัยแสงเหนือและดาราศาสตร์

  • ขึ้น เคเบิลคาร์ (Fjellheisen Cable car) สู่ยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) พบกับทิวทัศน์ตระการตาของเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดที่อยู่บริเวณใกล้เคียงในมุม 360 องศา
  • ชม บริเวณย่านใจกลางเมือง ที่มีสถาปัตยกรรมอันเป็นมรดกทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะเหล่าอาคารบ้านไม้เก่าแก่ที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีสันฉูดฉาด
  • ชม มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) วิหารไม้กลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดของนอร์เวย์ เป็นวิหารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1861 ในศิลปะแบบโกธิค
  • เข้าชม มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) มหาวิหารที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1965 ด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ มีโครงสร้างที่โดดเด่น โดยได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างมาจากสภาพภูมิทัศน์ในแบบภาคเหนือของนอร์เวย์ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดในทรุมเซอและสามารถชมความงดงามของพระอาทิตย์เที่ยงคืนได้อย่างชัดเจน
  • ชม บริเวณท่าเรือทรุมเซอ (Tromso harbor) ท่าเรือขนาดใหญ่และเป็นท่าเรือประมงที่มีความสำคัญอีกแห่งหนึ่งของนอร์เวย์ ก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 13 โดยสถานที่รอบๆ ท่าเรือสามารถมองเห็นทัศนียภาพของแสงเหนือและพระอาทิตย์เที่ยงคืนได้อีกด้วย บริเวณใกล้ท่าเรือยังมีร้านค้า ร้านกาแฟ ร้านของที่ระลึกต่างๆ มากมาย

17.00 น. เดินทางกลับขึ้นเรือสำราญ

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

21.00 น. เรือออกเดินทางสู่ เมืองฮอนนิงสแวก (Honningsvag / Honningsvåg) ดินแดนที่อยู่ทางเหนือสุดของโลก ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของนอร์เวย์บริเวณทะเลน้ำแข็งและเป็นดินแดนแห่งพระอาทิตย์เที่ยงคืน (Midnight Sun)

ที่พัก COSTA FAVOLOSA

วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม 2567

ฮอนนิงสแวก (นอร์เวย์)

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

10.00 น. เรือจอดเทียบท่าที่ เมืองฮอนนิงสแวก (Honningsvag / Honningsvåg) ท่าเทียบเรือของบรรดาเรือเดินสมุทรในช่วงฤดูร้อน ซึ่งท้องทะเลจะปลอดจากการแข็งตัวเป็นน้ำแข็ง จึงเป็นแหล่งทรัพยากรสำหรับการประมงและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

  • ชม เมืองฮอนนิงสแวก ที่ตั้งอยู่บริเวณอ่าวทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะมาเกโรยา (Mageroya)

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

บ่าย เดินทางสู่ นอร์ธเคป (North Cape / Nordkapp) หรือแหลมเหนือ (ระยะทางประมาณ 34 กม.) บริเวณปลายเกาะมาเกโรยา มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน 307 เมตรจากระดับน้ำทะเล ได้รับการตั้งชื่อจากนักสำรวจชาวอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1533 ในขณะที่เขาผ่านจุดนี้เพื่อเดินทางไปค้นหาเส้นทางเดินเรือทางตะวันออกเฉียงเหนือ หลังจากนั้นนอร์ธเคปก็มีผู้มาเยือนเป็นครั้งคราว ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันได้แก่ พระเจ้าออสกาที่ 2 (King Oscar II) แห่งนอร์เวย์ ในปี ค.ศ. 1873 และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 12 กรกฎาคม ค.ศ. 1907 ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 มีการรบสำคัญที่เรียกชื่อว่า การสู้รบแห่งแหลมเหนือในมหาสมุทรอาร์กติก ณ บริเวณใกล้แหลมเหนือ

  • เข้าชม ศูนย์นิทรรศการนอร์ธเคป (North Cape Hall) เพื่อชมพระอาทิตย์เที่ยงคืน (Midnight Sun) ที่ส่องแสงสุกสว่างยามราตรีพร้อมดื่มแชมเปญแกล้มไข่ปลาคาเวียร์เฉลิมฉลองในวาระพิเศษนี้และรับประกาศนียบัตร เพื่อเป็นการระลึกถึงการมาเยือน ณ ดินแดนจุดเหนือสุดของโลกอันน่าประทับใจ

เดินทางกลับ เมืองฮอนนิงสแวก ให้ได้เดินเล่นหรือเลือกซื้อสินค้าที่ระลึก

เดินทางกลับขึ้นเรือสำราญ

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

23.00 น. เรือออกเดินทางสู่ เมืองเลกเนส (Leknes) เมืองเล็กๆ กลางหมู่เกาะโลโฟเตน (Lofoten Islands) ประเทศนอร์เวย์

ที่พัก COSTA FAVOLOSA

วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม 2567

ล่องน่านน้ำทะเลเหนือ

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

อิสระพักผ่อนบนเรือสำราญ สามารถร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่มีภายในเรือ ทั้งเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษีบนเรือ หรือกิจกรรมต่างๆ ตามประกาศของเรือสำราญ

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ที่พัก COSTA FAVOLOSA

วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม 2567

เลกเนส (นอร์เวย์) – โลโฟเตน – รีน – สโลเวอร์ - โลโฟเตน

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

08.00 น. เรือจอดเทียบท่า เมืองเลกเนส (Leknes) เมืองเล็กๆ ที่มีประชาชนราว 4,200 คน กลางหมู่เกาะโลโฟเตน

บนเกาะเวสต์โวเกยยา (Vestvågøya) ห่างจากเมืองสโลเวอร์ (Svolvær) ไปทางตะวันตกประมาณ 68 กม. เป็นหนึ่งในเมืองไม่กี่เมืองของโลโฟเตนที่ไม่ขึ้นอยู่กับการประมงและไม่มีศูนย์กลางเมืองริมทะเล เลกเนสมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จึงทำให้ไม่หลงเหลือสถาปัตยกรรมไม้แบบดั้งเดิมเหมือนกับเมืองอื่นๆ ส่วนใหญ่ในโลโฟเตน แต่ด้วยสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่งดงามทั้งภูเขา ยอดเขา หน้าผา และหาดทราย ทำให้เลกเนสเป็นเมืองหนึ่งที่งดงามไม่แพ้เมืองอื่น

  • ชม หมู่บ้านประมงชาวนอร์วีเจียน (Norwegian Fishing Village) ภาพจริงที่ปรากฏอยู่ในโปสการ์ดของโลโฟเตนที่เห็นได้ทั่วไปตามร้านขายของที่ระลึก ภาพหมู่บ้านชาวประมงสีสันสดใสที่มีทิวทัศน์ของเทือกเขาสูงเป็นฉากหลัง
  • เข้าชม พิพิธภัณฑ์ชาวประมงหมู่บ้านออ (Norwegian Fishing Village Museum Å) หมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ ณ จุดสิ้นสุดของถนน E10 หรือที่รู้จักกันในชื่อว่าถนน King Olav V ที่ลากยาวมาจากเมืองทางตอนเหนือของสวีเดนเชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่ในนอร์เวย์จนถึงหมู่เกาะโลโฟเตน พิพิธภัณฑ์นี้เป็นพิพิธภัณฑ์เปิด (Open Air) ที่เก็บรวบรวมเรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่ของชาวประมงในหมู่บ้านนี้ในช่วงปี ค.ศ. 1840-1960 ชมเรื่องราวการจับปลาของชาวเกาะโลโฟเตนที่มีมากว่า 250 ปี ภายในบริเวณเดียวกันนี้ยังประกอบไปด้วย โรงงานเบเกอรี่ที่ใช้เตาหินโบราณตั้งแต่ปี ค.ศ. 1878 เรือบ้าน (Boathouse) เรือไม้ดั้งเดิมที่ชาวนอร์วีเจียนใช้ในการประมง โรบู (Rorbu) บ้านชาวประมงสีแดงสดที่เรียงรายอยู่ริมน้ำ ร้านขายของชำ ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1843 ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นแผนกต้อนรับของพิพิธภัณฑ์และยังมีสถานที่อื่นๆ อีกมากมาย

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

  • ชมความน่ารักของ หมู่บ้านรีน (Reine Village) หมู่บ้านเล็กๆ ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ ถือเป็นหมู่บ้านที่เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของโลโฟเตน
  • ชม สะพานฮัมนอย (Hamnoy Bridge) จุดถ่ายภาพยอดนิยมของตากล้องทั่วโลก ถือเป็นอีกมุมหนึ่งที่ดีที่สุดของการดูแสงเหนือบนเกาะโลโฟเตน
  • เข้าชม พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านไวกิงโลโฟตร์ (Lofotr Viking Village) ที่สร้างขึ้นบริเวณรอบๆ แหล่งที่ขุดพบบ้านของหัวหน้าเผ่าชาวไวกิง ในปี ค.ศ. 1983 นักโบราณคดีได้ขุดพบอาคารขนาดยาวที่หมู่บ้านบอร์ก (Borg) ที่สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี ค.ศ. 500 และถูกทิ้งร้างไปช่วงประมาณปี ค.ศ. 950 ปัจจุบันพื้นที่แห่งนี้ได้รับการขุดและสร้างขึ้นใหม่ตามแบบเดิมคือ อาคารยาวประมาณ 80 เมตรซึ่งเชื่อกันว่าเป็นบ้านของหัวหน้าเผ่าไวกิง ในบริเวณเดียวกันนี้ยังมี โรงตีเหล็ก เรือไวกิงจำลองขนาดจริง และอื่นๆ ให้ได้ดื่มด่ำกับวิถีชีวิตของชาวไวกิงโบราณ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงพิพิธภัณฑ์แห่งปี ค.ศ. 2011 ของประเทศนอร์เวย์ และรางวัลพิพิธภัณฑ์ยุโรปแห่งปี ค.ศ. 2013

เดินทางกลับขึ้นเรือสำราญ

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

21.00 น. เรือออกเดินทางสู่ เมืองโบโด (Bodo / Bodø) ทางตอนเหนือของเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเขตนอร์ดแลนด์ (Nordland) และใหญ่เป็นอันดับสองของนอร์เวย์เหนือ

ที่พัก COSTA FAVOLOSA

วันอังคารที่ 6 สิงหาคม 2567

โบโด (นอร์เวย์)

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

08.00 น. เรือจอดเทียบท่าที่ เมืองโบโด (Bodo / Bodø) หรือที่ในภาษานอร์เวย์อ่านว่าบูเดอร์ (Bodø) หนึ่งในเมืองที่ได้รับเลือกให้เป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมของยุโรป 

  • ชม มหาวิหารประจำเมือง (Bodo Cathedral) สร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1956 เป็นวิหารที่ค่อนข้างทันสมัยและมีขนาดใหญ่ที่สุดในเมือง โดดเด่นด้วยหอระฆังสูง 36 เมตร และหน้าต่างตกแต่งอย่างงดงาม
  • เข้าชม พิพิธภัณฑ์การบินนอร์เวย์ (Norwegian Aviation Museum) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์การบินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศแถบนอร์ดิก บนพื้นที่ประมาณ 10,000 ตารางเมตร เป็นสถานที่เก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การบิน รวมถึงบทบาทสำคัญของการบินในช่วงสงครามเย็น ภายในจัดแสดงเกี่ยวกับหอควบคุมการบิน เครื่องบินรุ่นต่างๆ รวมถึงเครื่องบินโบราณอีกจำนวนมาก

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารไทย

บ่าย มีเวลาเล็กน้อยในการเดินเล่น เก็บภาพบริเวณท่าเรือ หรือเลือกซื้อของที่ระลึก

เดินทางก่อนกลับขึ้นเรือสำราญ

18.00 น. เรือล่องสู่ เมืองโอเดน (Olden) เมืองเล็กๆ ที่ล้อมรอบด้วยภูเขาและทะเลสาบของนอร์เวย์

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ที่พัก COSTA FAVOLOSA

วันพุธที่ 7 สิงหาคม 2567

ล่องน่านน้ำทะเลเหนือ

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

อิสระพักผ่อนบนเรือสำราญ สามารถร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่มีภายในเรือ ทั้งเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษีบนเรือ หรือกิจกรรมต่างๆ ตามประกาศของเรือสำราญ

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ที่พัก COSTA FAVOLOSA

วันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม 2567

โอเดน (นอร์เวย์) - โลเอน - โอเดน

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

08.00 น. เรือจอดเทียบท่าที่ เมืองโอเดน (Olden) อันมีฉากหลังเป็นภาพของแนวเขาสูง ประปรายไปด้วยธารน้ำแข็ง อีกเมืองหนึ่งที่สร้างความประทับใจไม่แพ้กัน

  • นั่ง รถขับเคลื่อน 4 ล้อขนาดเล็ก (Troll Car) ที่ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อให้แล่นไปบนถนนสายแคบๆ ชมความงามของ ธารน้ำแข็งบริกสดาล (Briksdalbreen) ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่เกิดจากการทับถมของหิมะจนหนาถึง 45-60 เมตร แล้วเคลื่อนตัวลงมาอย่างช้าๆ ทำให้เกิดการสึกกร่อนลึกลงไปเนื่องจากความหนักของหิมะ บริกสดาลเป็นธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่อยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติยอสเทอดาล (Jostedalsbreen National Park) ที่นักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลกได้ใช้ศึกษาทางด้านธรณีวิทยาและประวัติศาสตร์ตลอดช่วงศตวรรษที่ผ่านมา

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

  • ชม หมู่บ้านโลเอน (Loen) หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมนอร์ดฟยอร์ด (Nordfjord) อันงดงาม ใกล้เมืองโอเดน ตื่นตากับทะเลสาบสีเทอร์ควอยซ์ ฟยอร์ด และภูเขาอันงดงาม

เดินทางกลับขึ้นเรือสำราญ

17.00 น. เรือออกเดินทางสู่ เมืองสตาแวงเกอร์ (Stavanger) เมืองเก่าแก่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของนอร์เวย์ที่มีอายุมากกว่า 1,000 ปีมาแล้ว เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการเป็นแหล่งน้ำมันและเป็นต้นกำเนิดของปลากระป๋อง นอกจากนี้ยังเป็นประตูสู่ฟยอร์ดที่สวยงามของนอร์เวย์อีกด้วย

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ที่พัก COSTA FAVOLOSA

วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม 2567

สตาแวงเกอร์ (นอร์เวย์)

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

10.00 น. เรือจอดเทียบท่าที่ เมืองสตาแวงเกอร์ (Stavanger) ท่าเรือเก่าแก่ตั้งแต่สมัยไวกิงเดินทางมาสำรวจและค้นพบ อดีตเป็นขุมกำลังที่สำคัญของชาวไวกิงในการควบคุมน่านน้ำ ทำให้อาณาจักรไวกิงเจริญรุ่งเรืองมาก ต่อมาเมื่อทรัพยากรทางทะเลเริ่มหมดลงทำให้เศรษฐกิจของเมืองตกต่ำจนเมื่อมีการค้นพบแหล่งน้ำมันในแถบทะเลเหนือ จึงทำให้เมืองฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้ง

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

  • ชม ย่านเมืองเก่าสตาแวงเกอร์ (Gamle Stavanger) ย่านประวัติศาสตร์เก่าแก่ของเมืองที่ทอดยาวไปตามถนนโบราณที่สร้างจากหินกรวดขนาดใหญ่คดเคี้ยวไปมา ตลอดสองข้างทางจะเป็นอาคารบ้านไม้เก่าแก่ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 18 ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี
  • ชม วิหารประจำเมือง (Stavanger Cathedral) วิหารที่เก่าแก่ที่สุดในนอร์เวย์ บริเวณกลางเมืองสตาแวงเกอร์ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1100 แล้วเสร็จประมาณปี ค.ศ. 1150 ด้วยศิลปะแองโกล-นอร์แมน ต่อมาในปีช่วงศตวรรษที่ 13 ได้เพิ่มเติมศิลปะโกธิคเข้าไป ปัจจุบันเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมมากที่สุด
  • ชม อนุสาวรีย์สามดาบ (Three Swords Monument หรือ Swords in Rock) ซึ่งมีลักษณะเป็นดาบ 3 เล่ม ที่มีความสูงประมาณ 10 เมตร ปักอยู่บนหินบริเวณเนินเขาเล็กๆ ใกล้กับฟยอร์ด สร้างโดย Fritz R ed ประติมากรชาวนอร์เวย์ เพื่อระลึกถึงการต่อสู้ของกษัตริย์ฮารัลด์ แฟร์แฮร์ (Harald Fairhair) ที่รวบรวมนอร์เวย์เข้าไว้ด้วยกันในสมรภูมิฮาฟร์สฟยอร์ด (Hafrsfjord) ในปี ค.ศ. 872
  • เข้าชม The Iron Age Farm หมู่บ้านจำลองยุคโบราณราวศตวรรษที่ 4-5 ย้อนอดีตสู่ช่วงเวลาที่ผู้คนผลิตของใช้จากเหล็กกล้าและสร้างกำแพงจากหินเพื่อป้องกันความหนาวเย็น การดำเนินชีวิตที่อิงกับธรรมชาติ พร้อมชมบรรยากาศโดยรอบที่มีทั้งเนินเขา หน้าผา และฟยอร์ดอันงดงาม

เดินทางกลับขึ้นเรือสำราญ

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

20.00 น. เรือออกเดินทางสู่เมืองฮัมบูร์ก

ที่พัก COSTA FAVOLOSA

วันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม 2567

ล่องน่านน้ำทะเลเหนือ

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

อิสระพักผ่อนบนเรือสำราญ สามารถร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่มีภายในเรือ ทั้งเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษีบนเรือ หรือกิจกรรมต่างๆ ตามประกาศของเรือสำราญ

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ที่พัก COSTA FAVOLOSA

 

หมายเหตุ :ก่อนเรือกลับเทียบท่าใน เช้าวันถัดไป จะต้องดำเนินการเตรียมตัวเพื่อเช็กเอาต์ออกจากเรือดังนี้

  1. จัดกระเป๋าใบเล็ก สำหรับเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวที่ต้องใช้ในช่วงกลางคืนและเช้าวันถัดไป
  2. จัดกระเป๋าใบใหญ่และวางไว้หน้าห้อง พร้อมผูกป้ายกระเป๋าสีต่างๆ ตามที่เรือกำหนด เจ้าหน้าที่ของเรือจะมาเก็บกระเป๋าใบใหญ่ไปในช่วงกลางดึก (ป้ายกระเป๋าสีต่างๆ นี้จะเป็นตัวกำหนดลำดับการนำกระเป๋าลงจากเรือ)
  3. ชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งรายละเอียดค่าใช้จ่ายจะส่งให้ตรวจเช็กความถูกต้องก่อน (ชาร์จผ่านบัตรเครดิตที่ลงทะเบียนไว้ตอนเช็กอินในวันแรกของการขึ้นเรือโดยอัตโนมัติ หรือในกรณีที่ไม่มีบัตรเครดิต สามารถชำระด้วยเงินสดได้ โดยทางเรือจะเรียกเก็บมัดจำไว้ล่วงหน้าในวันแรกของการขึ้นเรือ ตามข้อกำหนดของเรือ)

วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม 2567

ฮัมบูร์ก (เยอรมนี) - ดูไบ

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

08.00 น. เรือจอดเทียบท่าที่เมืองฮัมบูร์ก

เช็กเอาต์ออกจากเรือสำราญ พร้อมรับกระเป๋าสัมภาระ

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารจีน

บ่าย มีเวลาให้ท่านได้เลือกซื้อของฝาก หรือ ถ่ายรูปเมืองฮัมบูร์กก่อนอำลา

เดินทางสู่ สนามบินฮัมบูร์ก เพื่อเช็กอิน

ค่ำ อิสระรับประทานอาหาร ตามอัธยาศัย (Cash Back EUR 20)

21.30 น. บินสู่ ดูไบ โดยเที่ยวบิน EK 062

วันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม 2567

ดูไบ - สนามบินสุวรรณภูมิ

05.45 น. ถึง สนามบินดูไบ เปลี่ยนเที่ยวบิน

08.50 น. บินสู่ประเทศไทย โดยเที่ยวบิน EK 370

18.20 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

หน้าแรก | จองโรงแรม | ตั๋วเครื่องบินในประเทศ | ตั๋วเครื่องบินต่างประเทศ | ทัวร์ไทย | ทัวร์ไฟไหม้ | เรือสำราญ | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อเรา | นโยบายความเป็นส่วนตัว
Copyright © 2003 eTravelWay.com All rights reserved โดย บริษัททัวร์ วีอาร์ เอนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด
ใบอนุญาตนำเที่ยวในและต่างประเทศเลขที่ 11/11450
facebook
tel
TOP