... ENJOY CRUISING …

MSC GRANDIOSA

อิตาลี – ฝรั่งเศส - สเปน - ตูนิเซีย 11 วัน 8 คืน

โรม - ฟลอเรนซ์ - ลิวอร์โน่ - มาร์เซย - อาร์ลส์ - บาร์เซโลนา - ลากูเลตต์ - คาร์เธจ - ซิดิ บู ซาอิด - ปาเลอร์โม่ - เนเปิลส์ - มิลาน

เดินทาง วันที่ 19-29 เม.ย. 2567 เริ่มต้นท่านละ 139,900 บาท

✅ พักฟลอเรนซ์ 1 คืน + พักบนเรือ 7 คืน ✅ มีหัวหน้าทัวร์ดูแลตลอดเส้นทาง

✅ รวมทิปแล้ว ✅ รวมเที่ยวทุกพอร์ต✅ รวมน้ำดื่มวันละ 1 ขวดทุกท่า

- ตารางเวลาบินอาจมีการเปลี่ยนแปลงเวลาตามประกาศของสายการบิน -

23.30 น. หัวหน้าทัวร์รอต้อนรับที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ประตูทางเข้าที่ 9 แถว T เคาน์เตอร์เช็กอินสายการบินเอมิเรตส์ (EK)

02.25 น. บินสู่ ดูไบ โดยเที่ยวบิน EK 377

06.00 น. ถึง สนามบินนานาชาติดูไบ เพื่อเปลี่ยนเที่ยวบิน

09.10 น. บินต่อสู่ โรม (อิตาลี) โดยเที่ยวบิน EK 97

13.25 น. ถึง สนามบินเลโอนาร์โด ดา วินชี-ฟีอูมีชีโน

= ผ่านพิธีการเข้าเมืองและศุลกากร =

เดินทางสู่ เมืองฟลอเรนซ์ (Florence) เมืองที่ตั้งอยู่ในแคว้นทัสคานี

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

ที่พัก Hotel Novotel Florence North Airport 4* หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก

เดินเที่ยวชมบรรยากาศ ย่านเมืองเก่าของฟลอเรนซ์ ต้นกำเนิดของศิลปะเรเนซองส์ เช่น แกลเลอรี อะคาเดเมีย (Accademia Gallery) พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมภาพวาดที่งดงามทรงคุณค่าของเหล่าศิลปินชาวอิตาเลียนรวมทั้งรูปปั้นเดวิดต้นฉบับ หนึ่งในผลงานชื่อดังของมีเกลันเจโล (Michelangelo), จัตุรัสดูโอโม่ (Piazza del Duomo) และ มหาวิหารซานตามาเรีย เดลฟิโอเร(Cathedral of Santa Maria del Fiore) โดดเด่นด้วยยอดโดมที่กล่าวกันว่าใหญ่ที่สุดในโลก หลังคาทรงโดมที่ถูกออกแบบสร้างขึ้นโดยฉีกรูปแบบของสถาปัตยกรรมดั้งเดิมอย่างสิ้นเชิง เป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมเรเนซองส์ บริเวณใกล้กันคือหอระฆังกัมปานีเล (Campanile di Giotto) และวิหารประกอบพิธีรับศีลจุ่มที่มีประตูแห่งสรวงสวรรค์ หรือ PARADISE DOOR, จัตุรัสซินญอเรีย (Piazza Della Signoria) ที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองและเคยเป็นที่ตั้งของรูปปั้นเดวิดมานานกว่า 3 ศตวรรษก่อนย้ายไปแสดงที่ Accademia Gallery, พิพิธภัณฑ์อุฟฟิซี่ (Uffizi Galleria) สถานที่เก็บงานศิลปะล้ำค่าในยุคกลาง, สะพานเวคคิโอ (Ponte Vecchio) สะพานหินเก่าแก่แห่งแรกที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อข้ามแม่น้ำอาร์โน

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

บ่าย เดินทางสู่ เมืองลิวอร์โน่ (Livorno) เมืองท่าชายฝั่งตะวันตกของแคว้นทัสคานี ขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลและป้อมปราการยุคเรเนซองส์

เดินทางสู่ท่าเรือเพื่อเช็กอินขึ้นเรือสำราญ MSC GRANDIOSA

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

20.00 น. ออกเดินทางสู่ เมืองมาร์เซย (ฝรั่งเศส)

ที่พัก MSC GRANDIOSA

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

10.00 น. เรือจอดเทียบท่า เมืองมาร์เซย (ฝรั่งเศส) เมืองหลวงของพรอว็องส์ แอลปส์ โคตร เดอ อซูร์ (Provence-Alpes-Cote d’Azur) ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจการค้าที่สำคัญมาตั้งแต่อดีตและยังเป็นเมืองท่าพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในน่านน้ำทะเลเมดิเตอร์เรเนียนของฝรั่งเศส

เดินทางสู่ เมืองอาร์ลส์ (Arles) เมืองประวัติศาสตร์โบราณที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโรน (Rhone River) ในจังหวัดบูช-ดูว์-โรน (Bouches-du-Rhône) ของแคว้นพรอว็องส์ (Provence) แคว้นที่อยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส โดดเด่นในด้านของโบราณสถานสำคัญที่มีมาตั้งแต่ยุคสมัยโรมาเนสก์และด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานจึงเป็นสาเหตุให้ UNESCO ยกย่องเมืองอาร์ลส์ให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1981

• เข้าชม โรมัน แอมฟิเธียเตอร์ (Roman Amphitheatre) อัฒจันทร์รูปร่างทรงกลมขนาดใหญ่ ที่สร้างขึ้นประมาณช่วงศตวรรษที่ 1 ใช้สำหรับชมการแสดงต่างๆ เป็นหนึ่งในโบราณสถานโรมันที่ถูกยกให้เป็นมรดกโลกของเมืองอาร์ลส์
• เข้าชม โรงละครโรมัน (Roman Theatre) โรงละครกลางแจ้งทรงครึ่งวงกลมที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอาร์ลส์ ที่สามารถจุผู้ชมได้ถึง 8,000 คน
• เข้าขม คริปโตปอรติกุส (Cryptoporticus) ทางเดินใต้ดินสถาปัตยกรรมโรมันโบราณที่มีความเก่าแก่ สร้างมาตั้งแต่ ศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสต์ศักราช โดยชาวกรีกที่เดินทางมาจากมาร์เซย ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกจาก UNESCO เช่นเดียวกับ Roman Amphitheatre และ Roman Theatre
• ถ่ายรูป โบสถ์แซงต์ โทรแปงค์ ( Trophime Church) โบสถ์แห่งบิชอบแห่งแรกของเมืองอาร์ลส์ที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 3 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรมัน

เดินทางกลับสู่ เมืองมาร์เซย (Marseille)

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

บ่าย เดินเที่ยวชมบรรยากาศของ เมืองมาร์เซย เช่น จัตุรัสชมวิว ชมวิวทิวทัศน์ของท่าเรือเวกกิโอ (Vecchio Port) และเมืองที่ถูกโอบล้อมด้วยเนินเขาลูกย่อมๆ, เอสพลานาด (Esplanade) ย่านเมืองใหม่ที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองที่มาร์เซยได้รับเลือกให้เป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 2013, อาคารพิพิธภัณฑ์ริมทะเล ทั้งพิพิธภัณฑ์สถาน Regarde de Provence, the Villa Mediterranee และ MuCEM พิพิธภัณฑ์ทางอารยธรรมของยุโรปและเมดิเตอร์เรเนียน ที่ออกแบบได้อย่างเป็นเอกลักษณ์, Panier ศูนย์กลางของเมืองที่มีประวัติอันยาวนานที่เต็มไปด้วยสีสัน ชีวิตชีวา ทั้งร้านค้างานศิลปะและคาเฟ่ที่คราคร่ำไปด้วยผู้คน, Veille Charite สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1640 ที่พักพิงของเหล่าวนิพกคนเร่ร่อน ปัจจุบันเป็นแกลเลอรีจัดแสดงผลงานทางศิลปะ

เดินทางกลับขึ้นเรือสำราญ

19.00 น. ออกเดินทางสู่ เมืองบาร์เซโลนา (สเปน)

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ที่พัก MSC GRANDIOSA

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

08.00 น. เรือจอดเทียบท่า เมืองบาร์เซโลนา (สเปน) เมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานเกือบ 2,000 ปี เมืองหลวงของแคว้นคาตาลุญญา ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนของคาบสมุทรไอบีเรีย มีภาษาท้องถิ่นเรียกว่า “ภาษาคาตาลัน” พร้อมๆ กับการใช้ภาษาสเปน เคยเป็นอาณานิคมของโรมันมาก่อน รวมทั้งฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1640 ในเมืองมีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่สำคัญมากมาย เช่น อาคารที่ออกแบบโดยสถาปนิกชาวสเปนชื่อ อันโตนิโอ เกาดี (Antonio Gaudi) ในสถาปัตยกรรมอาร์ตนูโว (Art Nouveau) ที่ดูแปลกประหลาดจึงเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สำคัญ ในปี ค.ศ. 1992 เมืองบาร์เซโลนาได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 25 และในปี ค.ศ. 1888 ได้เคยจัดงานแสดงสินค้าโลก หรือ World’s Fair อีกด้วย

• เที่ยวชมบรรยากาศ เมืองบาร์เซโลนา เช่น มหาวิหารซากราดา แฟมิเลีย (Sagrada Familia) ผลงานการออกแบบสุดท้ายของ Antonio Gaudi ที่มีความแปลกตาแต่ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยสถาปัตยกรรมแบบอาร์ตนูโว ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะยังสร้างไม่เสร็จแต่ก็สวยงามจนไม่ควรพลาดไปเยี่ยมชม, สวนกูเอล (Guell park) สวนสาธารณะที่เป็นผลงานของ Antonio Gaudi ด้วยสถาปัตยกรรมแบบอาร์ตนูโว รังสรรค์ประติมากรรมสวยๆ ด้วยกระเบื้องโมเสกนับล้านชิ้นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว, Casa Mila บ้านของเศรษฐีตระกูล Mila ผลงานที่รังสรรค์ออกแบบโดย Antonio Gaudi ในสไตล์อาร์ตนูโว ที่สร้างขึ้นเมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว ด้วยการออกแบบที่ตึกมีทรงโค้งเว้าคล้ายคลื่นแปลกตา ทำให้ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจาก UNESCO ถึงแม้ว่าจะยังมีการพักอาศัยอยู่ในปัจจุบันก็ตาม, Casa Batllo อีกหนึ่งผลงานของ Antonio Gaudi ที่สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1877 ของเศรษฐีตระกูล Balto โดดเด่นด้วยหลังคากระเบื้องหลากสีที่ได้ไอเดียการออกแบบมาจากหลังของมังกร, Palau de la Musica Catalana โรงแสดงดนตรีและโอเปร่าที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สร้างในสไตล์ Modernista และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO ด้วย

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

บ่าย ช้อปปิ้งย่าน La Rambla Boulevard จุดรวมพลของเหล่านักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกและเป็นที่ตั้งของตลาดนานาชาติ ซึ่งมีร้านอาหารหลากหลายชนิดไว้บริการ รวมถึงรูปปั้นงานศิลปินต่างๆ ที่ตั้งอยู่ทั่วบริเวณยิ่งทำให้บรรยากาศคึกคักไปด้วยผู้คนและนักท่องเที่ยว, Paseo de Grancia อีกหนึ่งถนนสายช้อปปิ้งของบาร์เซโลนา โดดเด่นด้วยอาคารลวดลายแปลกตาสไตล์ทันสมัย พร้อมร้านค้าแบรนด์เนมชื่อดัง โรงแรม และร้านอาหารสุดหรู (ขึ้นกับการจัดสรรเวลา โดยยึดเวลาที่ต้องกลับขึ้นเรือเป็นสำคัญ)

เดินทางกลับขึ้นเรือสำราญ

18.00 น. ออกเดินทาง ล่องทะเลเมดิเตอร์เรเนียน สู่ เมืองลากูเลตต์ (ตูนิเซีย)

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ที่พัก MSC GRANDIOSA

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

อิสระพักผ่อนบนเรือสำราญ สามารถร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่มีภายในเรือ ทั้งช้อปปิ้งร้านขายสินค้าปลอดภาษีบนเรือหรือกิจกรรมตามจุดต่างๆ บนเรือตามประกาศของเรือสำราญ

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ที่พัก MSC GRANDIOSA

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

08.00 น. เรือจอดเทียบท่า เมืองลากูเลตต์ (ตูนิเซีย) เป็นเทศบาลและเมืองท่าของตูนิส (ตูนิเซีย) ตั้งอยู่บนสันทรายโอบล้อมทะเลสาบตูนิส อยู่ห่างจากเมืองตูนิสไปทางตะวันออก 12 กม. เป็นจุดบรรจบของเครือข่ายถนนและทางรถไฟสายหลักของตูนิเซีย

เดินทางสู่ เมืองคาร์เธจ (Carthage) สร้างขึ้นโดยชาวฟินิเซีย ตั้งอยู่บนแหลมบริเวณเวิ้งอ่าวตูนิสทำให้ได้เปรียบในด้านการเดินเรือ เป็นยุทธศาสตร์การค้าทางทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่สำคัญ แต่ประวัติศาสตร์ที่ถูกต้องแท้จริงของนครคาร์เธจนั้นสูญหายไปพร้อมๆ กับความพ่ายแพ้ต่อกองทัพโรมันในสงครามพิวนิก ครั้งที่ 3 ดังนั้นตำนานต่างๆ เกี่ยวกับนครคาร์เธจจึงเป็นเพียงจดหมายเหตุและตำนานจากการบอกเล่าของโรมัน อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาโรมันได้กลับมาสร้างเมืองคาร์เธจให้โชติช่วงขึ้นใหม่บนซากปรักหักพัง พร้อมสิ่งปลูกสร้างที่ยิ่งใหญ่อย่าง โรงละคร วิลล่าและห้องอาบน้ำ

• เที่ยวชมบรรยากาศของ เมืองคาร์เธจ เช่น Byrsa Hill อดีตป้อมปราการของเมืองคาร์เธจและเป็นที่ตั้งของวิหารของเทพเจ้า Eschmoun เทพเจ้าแห่งการรักษาของชาวคาร์เธจเนียน แต่ถูกทำลายโดยชาวโรมันในช่วง 146 ปีก่อนคริสต์ศักราช, ห้องอาบน้ำร้อนแอนโตนิน (Antonine Baths) หนึ่งในห้องอาบน้ำที่ใหญ่ที่สุดที่สร้างขึ้นภายใต้อาณาจักรโรมันที่มีทั้งห้องร้อน, ห้องอุ่นและห้องเย็นรวมถึงโรงยิมที่น่าตื่นตาตื่นใจ, โรงละครโรมันโบราณ ซึ่งยังคงถูกใช้สำหรับงานเทศกาลฤดูร้อนของคาร์เธจในทุกวันนี้

เดินทางสู่ ซิดิ บู ซาอิด

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

บ่าย เที่ยวชมบรรยากาศ ซิดิ บู ซาอิด หมู่บ้านชาวมัวร์สีฟ้าขาวน่ารัก ตั้งบนหน้าผาที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์แสนงดงามของอ่าวตูนิส มีตำนานเล่าขานไว้ว่านักบุญหลุยส์ผู้ซึ่งเสร็จจากศึกสงครามได้มาถึงที่แห่งนี้และได้ตกหลุมรักกับเจ้าหญิงเบอร์เบอร์และได้อาศัยอยู่อย่างสงบสุขทีหมู่บ้านแห่งนี้ สำรวจหมู่บ้านไปตามถนนที่ปูลาดด้วยหินก้อนโตพาลัดเลาะ คดเคี้ยวขึ้นสู่จุดชมวิวทิวทัศน์ที่งดงามของทะเลสีมรกตและชายหาดทางตอนใต้ของอ่าวตูนิสรวมถึงประภาคารวังเดิมของ Baron d’ Erlanger ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบัน ร้านค้าสองข้างทางมีสินค้างานฝีมือของชาวตูนิสเซีย สินค้าของเก่าแก่โบราณ เครื่องประดับเงินและงานศิลปะ ให้เลือกซื้อเลือกชมกัน

เดินทางกลับสู่ เมืองลากูเลตต์ (ตูนิเซีย) กลับขึ้นเรือสำราญ

18.00 น. ออกเดินทางสู่ ปาเลอร์โม่ (อิตาลี)

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ที่พัก MSC GRANDIOSA

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

08.00 น. เรือจอดเทียบท่า เมืองปาเลอร์โม่ (อิตาลี) เมืองหลวงของแคว้นซิซีลี (Sicily) ที่เปี่ยมด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรมและศิลปะการครัวที่ได้รับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมานานกว่า 2,700 ปี ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะซิซีลี ก่อตั้งโดยชนเผ่าฟีนิเชียน (Phoenicians) ประมาณ 743 ปีก่อนคริสตกาล ต่อมาถูกปกครองโดยชนชาวคาร์เธจ (Carthage) และได้เปลี่ยนผ่านการปกครองตามกาลเวลา ทั้งโรมัน, ไบแซนไทน์, อาหรับ, ชนเผ่านอร์แมน จนได้เป็นส่วนหนึ่งของอิตาลีในปัจจุบัน

• เดินเที่ยวชมบรรยากาศ เมืองปาเลอร์โม่ เช่น Piazza Pretoria ลานน้ำพุใจกลางเมืองที่ออกแบบโดย Francesco Camilliani ในช่วงศตวรรษที่ 16 เป็นหนึ่งในงานออกแบบสไตล์เรเนซองส์ที่สำคัญมาก ประติมากรรมรูปปั้นที่เล่าเรื่องราวของเทพเจ้าโอลิมเปียทั้ง 12 องค์และสัตว์ประหลาดทั้งฮาร์ปี้ ไซเรนและไททันมากกว่า 50 ชิ้น, โบสถ์ Martorana ที่ชาวเมืองเชื้อสายอัลบาเนียนให้ความศรัทธา สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายของศิลปะ สถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมประเพณีของช่วงเวลาต่างยุคต่างสมัยที่สั่งสมไว้ที่โบสถ์แห่งนี้ตลอดระยะเวลานับศตวรรษที่ผ่านมา

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

บ่าย เดินเที่ยวชมบรรยากาศ ตลาด Ballaro ตลาดกลางแจ้งที่โด่งดังของซิซีลี แหล่งรวมของอาหารการกิน ผลไม้นานาชนิด แม้กระทั่งเครื่องเทศและแผงปลา พร้อมกับเทคนิคการเรียกลูกค้าต่างๆ ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ได้ลองสัมผัสประสบการณ์ที่หาดูได้ยากแห่งนี้

เดินทางกลับขึ้นเรือสำราญ

18.00 น. ออกเดินทางสู่ เนเปิลส์ (อิตาลี)

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ที่พัก MSC GRANDIOSA

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

06.30 น. เรือจอดเทียบท่า เมืองเนเปิลส์ (อิตาลี) หนึ่งในท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของอิตาลีในน่านน้ำเมดิเตอร์เรเนียน เป็นเมืองหลวงของแคว้นกัมปาเนีย มีชื่อเสียงในด้านประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม ดนตรี และศาสตร์การทำอาหาร มีบทบาทสำคัญในคาบสมุทรอิตาลีมาตลอด 2,800 ปี นับแต่ก่อตั้งเมืองขึ้นมา เป็นเมืองแรกที่เริ่มทำพิซซ่าโดยแรกเริ่มใช้การทอดก่อนจะเปลี่ยนเป็นการอบแทนในภายหลัง รวมถึงได้รับอิทธิพลทางด้านดนตรี เช่น การประดิษฐ์ Romantic Guitar และแมนโดลิน

• เดินเที่ยวชมบรรยากาศ เมืองเนเปิลส์ เช่น ปราการ Maschio Angioino ที่ดูใหญ่โตอลังการ, Vomero ย่านกลางเมืองเนเปิลส์, จัตุรัสเกสุนูโว (Piazza del Gesu Nuovo) สถาปัตยกรรมแห่งศตวรรษที่ 18 ที่แปลกตา, โบสถ์ซานตา เกียรา (Basilica of Santa Chiara), ถนนคนเดิน Spaccanapoli ที่คราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว, จัตุรัสซานโดเมนิโก (Piazza San Domenico) ย่านที่อยู่อาศัยของเหล่าขุนนางและพ่อค้าผู้มั่งคั่งในสมัยโบราณ, ถนนซานเกรกอรีโอ อาร์มเวโน (San Gregorio Armveno) หรือที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในชื่อ “สตราดา เด เพรซิปี (Strada dei presepi)” เป็นที่ตั้งของโบสถ์สถาปัตยกรรมบาโรก และงานหัตถกรรมแกะสลักที่โด่งดัง และ Via dei Tribunali อาคารที่มีซุ้มประตูยุคเดคูมาน (Decuman) ที่หาชมได้ยากประดับอยู่

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

บ่าย เดินเที่ยวชมบรรยากาศ เมืองเนเปิลส์ เช่น จัตุรัส ดานเต (Piazza Dante) จัตุรัสกลางเมืองตั้งอยู่ใกล้ๆ กับพระราชวังโบราณเก่าแก่, ย่านช้อปปิ้งของเมืองเนเปิลส์ คาเฟเทอเรียที่เก่าแก่และโด่งดังที่สุดของเนเปิลส์ “The Gambrinus” อยู่บริเวณจัตุรัส Piazza del Plebiscito, โรงละครซาน คาร์โล (San Carlo Theater) และ แกลเลอรีอัมเบอร์โต (Galleria Umberto) หนึ่งในที่นัดพบของเหล่าศิลปิน กวี และนักเขียน 

เดินทางกลับขึ้นเรือสำราญ

16.00 น. ออกเดินทางสู่ เมืองลิวอร์โน่ (อิตาลี)

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ที่พัก MSC GRANDIOSA

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

09.00 น. เรือจอดเทียบท่า เมืองลิวอร์โน่ (อิตาลี)

เช็กเอาต์ออกจากเรือสำราญ พร้อมรับกระเป๋าสัมภาระ

• ช้อปปิ้ง Serravalle Designer Outlet ศูนย์รวมร้านค้าขายสินค้าแฟชั่นแบรนด์ดังมากมาย เช่น ARMANI, BURBERRY, LACOSTE, PRADA, DIESEL, BULGARI, GUESS, FURLA, SALVADOR FERRAGAMO, VERSACE และอื่นๆ อีกมากมาย

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

15.30 น. เดินทางสู่ สนามบินมิลาโนมัลเปนซา (มิลาน) เพื่อเดินทางกลับ

22.20 น. บินสู่ สนามบินนานาชาติดูไบ โดยเที่ยวบิน EK 92

06.25 น. ถึง สนามบินนานาชาติดูไบ เพื่อเปลี่ยนเที่ยวบิน

09.40 น. บินสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยว EK 372

18.55 น. ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ