ENJOY CRUISING ... เที่ยวญี่ปุ่นสไตล์ใหม่!!

MSC BELLISSIMA

ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ 10 วัน 7 คืน

คามาคูระ • โยโกฮาม่า • โกเบ • โคจิ • เชจู

คาโกชิม่า • อาบทรายร้อนอิบุสุกิ • ช้อปปิ้งโอไดบะ

✅ พักบนเรือ 7 คืน ✅ มีไกด์ดูแลตลอดเส้นทาง ✅ รวมทิปแล้ว

✅ รวมเที่ยวทุกพอร์ต✅ รวมน้ำดื่มทุกท่า ✅ รวมอาหารทุกมื้อ

เริ่มต้น 129,900.-

กำหนดการเดินทาง วันที่ 28 เม.ย.-7 พ.ค. 2567

- ตารางเวลาบินอาจมีการเปลี่ยนแปลงเวลาตามประกาศของสายการบิน -

19.30 น. หัวหน้าทัวร์รอต้อนรับที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ประตู 2 แถว D เคาน์เตอร์เช็กอินสายการบินไทย (TG)

22.45 น. บินสู่ สนามบินฮาเนดะ โดยเที่ยวบิน TG 682

06.55 น. ถึง สนามบินฮาเนดะ (ญี่ปุ่น)

= ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร =
เดินทางสู่ เมืองคามาคูระ เมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่นในช่วงปี ค.ศ. 1185-1333 เป็นเมืองชายฝั่งที่มีที่เที่ยวทั้งสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ศาลเจ้าและธรรมชาติที่อยู่ไม่ไกลจากโตเกียวมากนัก

• นั่งรถไฟย้อนยุค Enoden รถไฟเส้นทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวหรือแม้กระทั่งคนท้องถิ่นเอง รถไฟสายนี้เริ่มเดินรถในศตวรรษทิ่ 19 (สมัยเมจิ) ปัจจุบันนี้ยังสามารถใช้งานได้ทั้งตู้รถไฟ สถานี หรือแม้กระทั่งความเร็วของการเดินรถ ก็ยังคงสภาพเดิมเหมือนในสมัยก่อน ที่สถานีรถไฟก็ใช้เป็นต้นแบบโลเคชั่นฉากในเอนิเมะชื่อดังให้คนรักการ์ตูนไปตามรอยได้อีกด้วย
• เดินเท้าจากสถานีรถไฟ Hase สู่ วัดฮาเซเดระ วัดพี่วัดน้องกับวัดฮาเซเดระในจังหวัดนาราและเป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองคามาคูระ ซึ่งคาดว่าสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 8 เป็นที่ประดิษฐานพระโพธิสัตว์คันนงหรือเทพเจ้าแห่งความเมตตา วัดแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดชมดอกไฮเดรนเยียในช่วงเดือนมิถุนายนและใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงปลายเดือนตุลาคมที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง
• นมัสการ พระใหญ่ไดบุทสึ วัดโคโตคุอิน องค์พระทำจากสำริดมีความสูง 13.35 เมตร หนัก 95 ตัน มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในญี่ปุ่น รองจากหลวงพ่อโตวัดโทไดจิแห่งเมืองนารา สร้างในปี ค.ศ. 1252 เดิมประดิษฐานอยู่ในห้องโถงของวัด แต่ได้รับความเสียหายจากพายุและแผ่นดินไหวหลายต่อหลายครั้งทำให้ตัวอาคารหายไปจึงประดิษฐานกลางแจ้งมาจนปัจจุบัน

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

บ่าย เดินทางสู่ เมืองโยโกฮาม่า (Yogohama)

• เดินเล่น ย่านไชนาทาวน์ หรือ จูกะไก ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นและเก่าแก่พอๆ กับย่านท่าเรือ เป็นจุดแรกที่คนจีนเข้ามาติดต่อค้าขายกับญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1859 ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอย่างมากมาย เช่น เส้นก๋วยเตี๋ยวของจีนถูกปรับเปลี่ยนจนมาเป็นราเม็ง ย่านนี้มีร้านอาหารมากมายและยังมีร้านที่จำหน่ายขนมและสินค้าเบ็ดเตล็ดนำเข้าจากจีนและที่อื่นๆ ในเอเชีย ตึกรามบ้านช่อง ซุ้มประตู ต่างก็ตกแต่งประดับประดาตามสไตล์จีนซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของย่านไชนาทาวน์

15.00 น. เดินทางสู่ ท่าเรือโยโกฮาม่า เพื่อเช็กอินขึ้นเรือสำราญ MSC BELLISSIMA

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

19.00 น. ออกเดินทางสู่ เมืองโกเบ (ญี่ปุ่น)

ที่พัก MSC BELLISSIMA

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

อิสระพักผ่อนบนเรือสำราญ สามารถร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่มีภายในเรือ ทั้งช้อปปิ้งร้านขายสินค้าปลอดภาษีบนเรือหรือกิจกรรมตามจุดต่างๆ บนเรือตามประกาศของเรือสำราญ

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

15.00 น. เรือจอดเทียบท่า เมืองโกเบ (ญี่ปุ่น) เมืองเอกของจังหวัดเฮียวโงะซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 5 และเป็นเมืองท่าที่สำคัญของญี่ปุ่น

ท่องเที่ยวในเมืองโกเบด้วยรถ LOOP BUS (ไม่จำกัดจำนวนการขึ้นลง) ผ่านจุดท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ย่านช้อปปิ้งกลางเมือง Motomachi และ Sannomiya, ศาลากลาง, บ้านพักชาวต่างชาติสไตล์ตะวันตกที่มีมาตั้งแต่ยุคเอโดะ, ไชนาทาวน์ และ Harborland

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร (เนื้อโกเบ สุดยอดเนื้อชั้นเลิศที่รู้จักไปทั่วโลก)

• ช้อปปิ้ง ย่านซันโนมิยะ (Sannomiya) ถนนช้อปปิ้งในร่ม มีร้านค้าปลีกเรียงราย 2 ข้างทาง ห้างสรรพสินค้า ไปจนถึงร้านอาหาร ผับ แกลเลอรี มากมาย และ ย่านโมโตมาจิ (Motomachi) ย่านร้านค้าของคนท้องถิ่น มีร้านเล็กๆ ตกแต่งอย่างมีสไตล์ของตัวเอง ทั้งร้านคาเฟ่ ร้านขนม ร้านเสื้อผ้า รองเท้าเครื่องประดับ ของฝากกระจุกกระจิก

20.00 น. เดินทางกลับขึ้นเรือสำราญด้วยรถ Loop Bus

23.59 น. ออกเดินทางสู่ เมืองโคจิ (ญี่ปุ่น)

ที่พัก MSC BELLISSIMA

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

11.00 น. เรือจอดเทียบท่า เมืองโคจิ (ญี่ปุ่น)

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

บ่าย ท่องเที่ยวใน เมืองโคจิ เกาะชิโกกุ จุดหมายของนักแคมปิ้ง คนส่วนใหญ่จะรู้จักเมืองโคจิจาก “อันปังแมน” ตัวการ์ตูนที่โด่งดังไปทั่วโลกจนสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์ขึ้นที่นี่

• เข้าชม ปราสาทโคจิ ปราสาทเก่าแก่ที่สร้างขึ้นจากไม้ตั้งแต่ยุคเอโดะที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมอย่างยิ่งเพราะไม่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์เลย บริเวณรอบๆ ปราสาทยังเป็นจุดชมซากุระตามฤดูกาลอีกด้วย
• เข้าชม วัดชิคุรินจิ หรือ วัดป่าไผ่ คาดว่าสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1267 เป็น 1 ใน 88 วัดเส้นทางแสวงบุญของภูมิภาคชิโกกุ แม้จะชื่อวัดป่าไผ่แต่ปัจจุบันกลับมีต้นเมเปิ้ลญี่ปุ่นมากมายขึ้นแทนจนกลายเป็นจุดชมความงามของสีทองสลับแดงสดในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี นมัสการและขอพรพระโพธิสัตว์แห่งปัญญา มอนจู โบซัตสุ และชมสวนสไตล์จีนจากตัวอาคารที่ได้รับยกย่องให้เป็นความงามแห่งชาติ

18.00 น. เดินทางกลับขึ้นเรือสำราญ

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

23.00 น. ออกเดินทางสู่ เกาะเชจู (เกาหลีใต้)

ที่พัก MSC BELLISSIMA

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

อิสระพักผ่อนบนเรือสำราญ สามารถร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่มีภายในเรือ ทั้งช้อปปิ้งร้านขายสินค้าปลอดภาษีบนเรือหรือกิจกรรมตามจุดต่างๆ บนเรือตามประกาศของเรือสำราญ

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ที่พัก MSC BELLISSIMA

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

07.00 น. เรือจอดเทียบท่า เกาะเชจู (เกาหลีใต้)

ท่องเที่ยวบน เกาะเชจู หรือ เชจูโด เขตปกครองพิเศษหรือจังหวัดปกครองตนเองพิเศษเชจู เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ ภูมิประเทศเป็นเกาะหินลาวาที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟในอดีต มีอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี

• ชม ยอดเขาชองซาน อิลจุลบง (Seongsan Ilchubong) ยอดเขาอันเป็นเอกลักษณ์แห่งนี้เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟเป็นเวลานานนับแสนปี ปัจจุบันภูเขาไฟได้ดับลงแล้ว ลาวาที่แข็งตัวบริเวณปากปล่องมีลักษณะเป็นแท่งแหลมร่วม 99 ก้อนโดยรอบทำให้เหมือนมงกุฎ ด้วยความเฉพาะตัวนี้ยอดเขานี้จึงเป็น 1 ใน 10 สถานที่สวยงามในเกาะเชจูที่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกอยากมาเยือน และถูกยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ใหม่ทางธรรมชาติของโลกโดย UNESCO
• ชม หมู่บ้านวัฒนธรรมซองอึบ(Seongeup Folk Village) หมู่บ้านเกาหลีโบราณเล็กๆ ที่ยังคงลักษณะการมุงหลังคาด้วยหญ้า ตั้งอยู่เชิงเขาฮัลลาซาน อยู่อาศัยมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1410 และยังคงอาศัยมาจนถึงปัจจุบัน มีทั้งบ้านพักอาศัย โรงเรียน ศาลาว่าการ ศาลเจ้า บางส่วนเหลือเพียงซากอาคารโบราณ ซากปรักหักพังของป้อมปราการ อนุสรณ์หิน ใจกลางหมู่บ้านมีต้นเซลโคว่า (Zelkova) อายุหลายร้อยปียืนต้นเป็นจุดศูนย์กลางของหมู่บ้านแห่งนี้ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการกำหนดให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมพื้นบ้านแห่งชาติเกาหลีใต้เมื่อปี ค.ศ. 1984

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

บ่าย ท่องเที่ยวบนเกาะเชจู (ต่อ)

• ชม หินยงดูอัม หรือหินหัวมังกร อยู่ทางตอนเหนือของเกาะเชจู ตามตำนานเล่าว่ามังกรตัวหนึ่งขโมยหยกล้ำค่าจากภูเขาฮัลลาแล้วถูกยิงด้วยธนูตกลงมาที่บริเวณยงดูอัมแห่งนี้ ร่างของมังกรจมลงสู่ก้นทะเลแต่เหลือเพียงส่วนหัว จึงกลายมาเป็นหินหัวมังกรในปัจจุบัน

15.00 น. เดินทางกลับขึ้นเรือสำราญ

16.00 น. ออกเดินทางสู่ เมืองคาโกชิม่า(ญี่ปุ่น)

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ที่พัก MSC BELLISSIMA

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

09.00 น. เรือจอดเทียบท่า เมืองคาโกชิม่า (ญี่ปุ่น) เมืองศูนย์กลางที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดคาโกชิม่า เกาะคิวชู ได้รับการขนานนามว่า “เนเปิลส์แห่งตะวันออก” ด้วยลักษณะอากาศและภูมิประเทศที่เป็นอ่าวและมีภูเขาไฟตั้งอยู่ใกล้เมืองเหมือนกัน

เดินทางสู่ เมืองอิบุสุกิ (Ibusuki) เมืองเล็กๆ ที่อยู่ทางตอนใต้ของเกาะคิวชูที่ยังมีภูเขาไฟที่ยังไม่สงบ ทำให้ใต้ดินลึกลงไปในบริเวณนี้ยังมีความร้อนตามธรรมชาติไหลเวียนอยู่และถ่ายเทความร้อนขึ้นมาบนพื้นดิน ส่งผลให้หาดทรายของที่นี่มีอุณหภูมิสูงกว่าที่อื่นบนโลก

• สัมผัสประสบการณ์อาบทรายร้อน กิจกรรมที่ขึ้นชื่อและไม่ควรพลาดของเมืองนี้ ที่เชื่อกันมาตั้งแต่สมัยเอโดะว่าทรายร้อนสามารถช่วยเรื่องการไหลเวียนของโลหิตมีผลดีต่อสุขภาพ ผิวพรรณและยังสามารถช่วยรักษาโรคได้อีกด้วย

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

เดินทางกลับสู่ เมืองคาโกชิม่า

• เดินเล่น ย่านการค้าเท็นมงคัง ถนนสายช้อปปิ้งที่ใหญ่ระดับภูมิภาคและเป็นย่านธุรกิจที่มีร้านค้าเรียงรายทั้ง ร้านค้าท้องถิ่น ร้านขายของฝาก ร้านอาหาร ไปจนถึงร้านเหล้า เป็นแหล่งที่คึกคักน่าเดินแห่งหนึ่งของเกาะคิวชู หรือแวะ Aeon Mall

18.00 น. เดินทางกลับขึ้นเรือสำราญ

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

19.00 น. ออกเดินทางสู่เมืองโยโกฮาม่า (ญี่ปุ่น)

ที่พัก MSC BELLISSIMA

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

อิสระพักผ่อนบนเรือสำราญ สามารถร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่มีภายในเรือ ทั้งช้อปปิ้งร้านขายสินค้าปลอดภาษีบนเรือหรือกิจกรรมตามจุดต่างๆ บนเรือตามประกาศของเรือสำราญ

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ที่พัก MSC BELLISSIMA

หมายเหตุ:

ก่อนเรือกลับเทียบท่าใน เช้าวันถัดไป จะต้องดำเนินการเตรียมตัวเพื่อเช็กเอาต์ออกจากเรือดังนี้

1. จัดกระเป๋า Overnight bag สำหรับเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวจำเป็นที่ต้องใช้ในช่วงกลางคืนและเช้าวันถัดไป
2. จัดกระเป๋าใบใหญ่และวางไว้หน้าห้อง พร้อมผูกป้ายกระเป๋าสีต่างๆ ตามที่เรือกำหนด เจ้าหน้าที่ของเรือจะมาเก็บกระเป๋าใบใหญ่ไปในช่วงกลางดึก (ป้ายกระเป๋าสีต่างๆ นี้จะเป็นตัวกำหนดลำดับการนำกระเป๋าลงจากเรือ)
3. ชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งรายละเอียดค่าใช้จ่ายจะส่งให้ตรวจเช็กความถูกต้องก่อน (ชาร์จผ่านบัตรเครดิตที่ลงทะเบียนไว้ตอนเช็กอินในวันแรกของการขึ้นเรือโดยอัตโนมัติ)

05.30 น. เรือจอดเทียบท่า เมืองโยโกฮาม่า (ญี่ปุ่น)

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

เช็กเอาต์ออกจากเรือสำราญ พร้อมรับกระเป๋าสัมภาระ

ท่องเที่ยว เมืองโยโกฮาม่า เมืองหลวงของจังหวัดคานากาวา ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีประชากรหนาแน่นรองจากโตเกียวและโอซาก้า ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของโตเกียว คาบเกี่ยวระหว่างอ่าวโตเกียวและอ่าวสากามิ โยโกฮาม่าเป็นเมืองท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นและยังเป็นท่าเรือแห่งแรกที่เปิดประเทศญี่ปุ่นสู่นานาประเทศในปี ค.ศ. 1859 จึงเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะป็น ไอศกรีม หนังสือพิมพ์ คิรินเบียร์ โทรเลข รถไฟ ก็เข้ามาสู่ญี่ปุ่นครั้งแรกที่เมืองโยโกฮาม่านี่เอง

• ชมบรรยากาศของเมืองโยโกฮาม่า เช่น Landmark Tower ตึกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น, Queen\'s Square ตึกแฝด 3 หลัง เรียงต่อกันมาด้วยความสูงที่ลดหลั่นกัน ซึ่งออกแบบรับกับตึก Landmark Tower หรือ Grand Inter-Continental Hotel โรงแรมสามเหลี่ยมหลังมน
• ใหม่! ... Yokohama Air Cabin นั่งกระเช้าลอยฟ้าในเมืองแห่งแรกของญี่ปุ่น ชมวิวเมืองและบริเวณท่าเรือโยโกฮาม่า ระยะทางไป-กลับ 1,260 เมตร จุดสูงสุดอยู่เหนือพื้นถึง 40 เมตรเลยทีเดียว

• พิพิธภัณฑ์ราเม็ง ที่คนรักเส้นไม่พลาด จัดแสดงประวัติความเป็นมา ตกแต่งบรรยากาศย้อนยุค จำลองร้านราเม็งตกแต่งแบบโบราณคลาสสิก ต้นแบบมาจากเมืองเก่าโตเกียว ชิตามาชิ ทีเด็ดคือรวบรวมสุดยอดร้านราเม็งทุกสารทิศมาไว้ให้ชิมแบบชามเล็กๆ หากไม่จุใจก็เลือกชามใหญ่ได้ตามต้องการ

กลางวัน อิสระอาหารกลางวันในพิพิธภัณฑ์ราเม็ง (คืนเงินสด 1,500 เยน)

บ่าย ท่องเที่ยวในเมืองโยโกฮาม่า (ต่อ)

• ถ่ายรูป โกดังอิฐแดงโยโกฮามา (Yakohama Red Brick Warehouse) หรือ อิคาเรนกะโซอูโกะ (Aka
  Renga Souko) อาคารอิฐแดง 2 อาคาร เคยใช้เป็นอาคารศุลกากรและคลังสินค้าของประเทศในปลายสมัยยุคเมจิ (ค.ศ. 1868-1912) จนถึงต้นยุคไทโช (ค.ศ. 1912–1926) จากนั้นได้ฟื้นฟูให้เป็นสถานที่ทางวัฒนธรรมและการพาณิชย์ ในปี ค.ศ. 2002 ภายในอาคารประกอบด้วยร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่มากมายและยังเป็นสถานที่จัดกิจกรรมในเทศกาลต่างๆ บนชั้น 3 ของอาคารยังมีระเบียงที่สามารถชมวิวบริเวณท่าเรือแบบพาโนราม่าได้อีกด้วย
• ช้อปปิ้ง Odaiba ศูนย์รวมความบันเทิง ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และร้านอาหาร ที่ตั้งบนเกาะสร้างใหม่ในอ่าวโตเกียว เชื่อมกับเกาะใหญ่ด้วยสะพานสายรุ้ง สามารถเดินเล่นบน skywalk ชมเทพีเสรีภาพที่จำลองมาจากนิวยอร์กและหุ่นกันดั้มตัวใหญ่ที่ทุกคนที่มาโอไดบะจะต้องมาถ่ายรูปด้วย

ค่ำ อิสระตามอัธยาศัย เพื่อความสะดวกในการช้อปปิ้ง (คืนเงินสด 2,000 เยน)

20.00 น. เดินทางสู่สนามบินฮาเนดะ เพื่อเช็กอิน

00.20 น. บินสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยเที่ยวบิน TG 661

04.50 น. ถึง สนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ